คู่มือแนะนำ วิธีเล่นโป๊กเกอร์
ในปัจจุบัน Poker คือเกมการแข่งขันที่ใช้ไพ่เป็นอุปกรณ์ในการแข่งขัน ที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลก สำหรับผู้เล่นใหม่ วิธีเล่นโป๊กเกอร์ อาจทำให้เกิดความกังวลเนื่องจากความซับซ้อนของเกม และมีสิ่งที่ต้องศึกษาเพิ่มเติมอยู่ตลอดเวลา แต่ในหากคุณลองเริ่มต้นเรียนรู้ คุณจะค้นพบว่ามันไม่ได้ซับซ้อนหรือยุ่งยากเหมือนที่คิดไว้
หากคุณเป็นมือใหม่สำหรับโลกของโป๊กเกอร์จริงๆ และ ต้องการคู่มือที่จะแนะนำ พื้นฐาน, กฏ, กติกา รวมถึง วิธีการเล่น Poker คุณมาถูกที่แล้ว ในบทความนี้ครอบคลุมสิ่งที่คุณต้องการรู้เกี่ยวกับ วิธีการเล่นโป๊กเกอร์ทั้งหมดที่คุณต้องการ
- จัดเตรียมความพร้อมสำหรับเกมโป๊กเกอร์
- ก่อนที่จะเริ่มเล่นโป๊กเกอร์
- เริ่มการเล่นโป๊กเกอร์
- การสิ้นสุดการเล่นโป๊กเกอร์
- สรุปบทความ
จัดเตรียมความพร้อมสำหรับเกมโป๊กเกอร์
ก่อนที่คุณจะเริ่มเล่น Poker คุณต้องมีการจัดเตรียมความพร้อม โดยเริ่มจาก ผู้เล่น คุณควรชักชวนเพื่อนที่สนใจในเกมนี้ พร้อมทั้งขนมนมเนย น้ำอัดลม และจัดการสิ่งต่างๆ ตามลำดับดังนี้
ประเภทของเกมโป๊กเกอร์
ประการแรก ที่คุณจำเป็นต้องตัดสินใจคือคุณจะเล่นโป๊กเกอร์ในประเภท และ กติกา อะไร ? โป๊กเกอร์เป็นที่รู้จักและแข่งขันกันอยู่ในปัจจุบัน มีหลายประเภท, วิธีการเล่น และ กติกาที่แตกต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น Omaha , Stud Poker , Razz , 2-7 และอีกมากมาย แต่ที่ได้รับความนิยมแพร่หลายที่สุดก็คือ Texas Hold’em Poker หรือที่นิยมเรียกสั้นๆว่า NLH ซึ่งวิธีการที่ดีที่สุดในการเลือกประเภทที่ใช้เล่นโป๊กเกอร์ ก็คือ เลือกรูปแบบที่ผู้เล่นทุกคนคุ้นเคย ซึ่งจะทำให้จัดการเล่นได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด
รูปแบบในการเล่นโป๊กเกอร์
เมื่อคุณได้ตัดสินใจเลือกประเภทโป๊กเกอร์ที่เหมาะสมที่สุดได้แล้ว สิ่งที่คุณต้องตัดสินใจต่อมาก็คือ รูปแบบที่จะใช้เล่น ยกตัวอย่างเช่น คุณเลือกที่จะเล่นโป๊กเกอร์ในประเภท Texas Hold’em ซึ่งมีอยู่ 2 รูปแบบในการเล่นคือ รูปแบบ Tournament และ Cash game
ในการเล่นโป็กเกอร์ในรูปแบบ Tournament ผู้เล่นทุกคนวางเงินเดิมพันจำนวนหนึ่งเท่าๆ กัน เพื่อใช้สำหรับเป็นรางวัลสำหรับผู้ชนะในแต่ละอันดับ จากนั้นจะได้รับแจกชิปสำหรับใช้ในการแข่งขัน เป็นจำนวนๆ หนึ่ง เมื่อมีผู้เล่นคนหนึ่งคนใด ไม่มีชิปเหลืออยู่ ก็จะต้องออกจากการแข่งขันและไม่สามารถใช้เงินซื้อชิปเข้ามาแข่งขันได้อีก นอกจากจะมีกติกาเพิ่มเติมว่า จะมีช่วงระยะเวลาให้ Re-buy หรือ Re-entry เพื่อสมัครเข้ามาแข่งขันใหม่ได้ ซึ่งการแข่งขันจะจบลงเมื่อชิปทั้งหมดอยู่กับผู้เล่นเพียงคนเดียว ผู้เล่นคนนั้นก็จะเป็นผู้ชนะเลิศ ซึ่งเงินรางวัล (ที่ผู้เล่นทั้งหมดชำระเป็นค่าสมัคร) ทั้งหมดไม่จำเป็นที่จะมอบให้แก่ผู้ชนะเพียงคนเดียว แต่ อาจจะแบ่งตามสัดส่วนให้กับผู้เข้าแข่งขันในอันดับต่างๆกันได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อตกลงที่ทำกันไว้ก่อนที่เริ่มการแข่งขัน
การแข่งขันอีกรูปแบบได้แก่ การแข่งขันในรูปแบบ Cash game ในการแข่งขันรูปแบบนี้ ผู้เล่นทุกคนจะได้รับชิปเท่ากับจำนวนเงินที่ซื้อชิปเพื่อใช้ในการเล่นโป๊กเกอร์ ในขณะที่ทำการแข่งขัน ผู้เล่นสามารถใช้เงินซื้อชิปเพิ่มเข้ามาเล่นได้ตามต้องการ ที่ยังทำการเล่นกันอยู่ การแข่งขันในรูปแบบนี้สามารถเล่นได้โดยไม่มีการจำกัดเวลา ผู้เล่นที่เสียชิปไปจนหมดสามารถซื้อชิปเพื่อเข้ามาเล่นใหม่ได้ตลอดเวลา
ระดับของการเล่นโป๊กเกอร์
หลังจากที่คุณตัดสินใจเลือกประเภทและรูปแบบในการเล่นโป๊กเกอร์ได้แล้ว คุณจำเป็นต้องตกลงเลือกระดับและกติกาในการเล่น Poker ที่ทุกคนพอใจ ซึ่งหากคุณเลือกเล่น Poker ในรูปแบบทัวร์นาเมนต์ คุณต้องตกลงกันว่า จะมีค่าสมัครที่เท่าไหร่ (ลงเงินเพื่อรวบรวมให้เป็นเงินรางวัล) ,สามารถซื้อชิปเพื่อกลับเข้ามาแข่งขันได้ใหม่หรือไม่ (Re-buy) ,เงินรางวัลจะแบ่งให้กับตำแหน่งใด และ จำนวนที่เท่าไหร่ บ้าง ฯลฯ
หลังจากนั้นคุณจึงมาเริ่มกำหนดระดับของ Blind เพื่อใช้ในการแข่งขัน โดยเราขอแนะนำให้เริ่มต้นที่น้อยกว่า 100 เท่าของชิปที่ได้รับในครั้งแรกเริ่มต้นการแข่งขัน ระยะเวลาที่จะเพิ่มขนาดของ Blind ให้มากขึ้น ซึ่งขึ้นอยู่กับว่า คุณต้องการใช้เวลาในการแข่งขันแต่ละทัวร์นาเมนต์นานขนาดไหน
ยกตัวอย่างเช่น หากคุณกำหนดให้ผู้เล่นทุกคนได้รับชิปเริ่มต้นที่ 1000 ชิป ดังนั้นขนาดของ Blind เริ่มต้นควรมีขนาด 5/10 จากนั้นจึงขยับไปเป็น 10/20 และ 20/40 ฯลฯ ไปเรื่อยๆ
หากคุณเลือกรูปแบบ Cash game คุณจำเป็นต้องตัดสินใจเลือกขนาดของ Blind ที่จะในการเล่นของคุณและไม่จำเป็นที่จะต้องขยับเพิ่มขนาดของ Blind ไปเรื่อยๆ เหมือนกันการเล่นโป๊กเกอร์ในรูปแบบทัวร์นาเมนต์ อย่างไรก็ดี คุณสามารถปรับเปลี่ยนขนาดของ Blind ได้อย่างอิสระตราบใดก็ตามที่ผู้เล่นทุกคนมีความเห็นตรงกัน เราแนะนำให้เริ่มต้นด้วยขนาดของ Blind ให้เท่ากับ 1/100 ของค่าเฉลี่ยของชิปที่ผู้เล่นทุกคนมี ยกตัวอย่างเช่น หากผู้เล่นทุกคนเลือกเล่นในรูปแบบนี้และแลกชิปเข้ามาเล่นเฉลี่ยที่ 100$ ขนาดของ Blind ที่แนะนำคือ 1$ ดังนั้นระดับในการเล่นก็คือ 0.5/1 นั่นเอง
ไพ่โป๊กเกอร์
ในการเล่นโป๊กเกอร์ คุณต้องการไพ่โป๊กเกอร์ในรูปแบบมาตรฐาน นำไพ่ โจ๊กเกอร์ (Joker) ออก ยกเว้นคุณจะเลือกประเภทของโป๊กเกอร์ที่กำหนดให้มี โจ๊กเกอร์ในการเล่นด้วย คุณไม่จำเป็นต้องใช้ไพ่หลายๆ สำรับ ในการเล่นโป๊กเกอร์ และอย่างลืมที่จะสับไพ่ก่อนที่จะเริ่มเล่นโป๊กเกอร์
ชิป
ด้วยแผนวงกลมทำจากพลาสติกคล้ายเหรียญ ที่ระบุค่าของมันด้วยตัวเลข และสี ต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้ผู้เล่นสามารถ กำหนดและวาง เดิมพันในเล่นโป๊กเกอร์ได้ง่ายกว่าการใช้เงินสดมาก ดังนั้นอย่าลืมที่จะจัดเตรียมชิปให้มีจำนวนพอเพียงสำหรับผู้เล่นทุกคน และ มีหลายๆค่าให้เหมาะสม ยกตัวอย่างเช่น หากการเล่นโป๊กเกอร์ของคุณเริ่มต้นด้วย ชิป จำนวน 1000 ชิป คุณควรมีชิปในขนาด 10,25,50,100,200 และ 500 ซึ่งจะช่วยให้ผู้เล่นมีทางเลือกในการเลือกขนาดของเดิมพันให้หลากหลายยิ่งขึ้น
ก่อนที่จะเริ่มเล่นโป๊กเกอร์
ถึงตรงนี้คุณได้จัดเตรียมความพร้อมสำหรับการเริ่มต้นเล่นโป๊กเกอร์เรียบร้อยแล้ว ได้เวลาที่จะเริ่มเล่น Poker เสียที
กำหนดตำแหน่งในการเล่น
คุณกับเพื่อนอาจใช้วิธีการง่ายๆ โดยการจับฉลากเลือกตำแหน่งที่นั่งในการเล่นโป๊กเกอร์ ตามหมายเลขที่นั่ง ซึ่งวิธีที่ถูกต้องจริงๆก็คือการให้ทุกคนเลือกที่นั่งและแจกไพ่ให้กับทุกคน ผู้ใดที่ได้รับไพ่ที่มีอันดับสูงที่สุดจะได้เริ่มเล่นที่ตำแหน่ง Dealer Button หรือที่เรียกว่า ปุ่ม คือตำแหน่งที่ดีสุดในการเล่น Poker เนื่องจากเป็นตำแหน่งที่สามารถตัดสินใจเป็นคนสุดท้ายในทุกรอบการเล่น Post-Flop และเลื่อนปุ่ม Dealer button ไปทางด้านซ้ายตามเข็มนาฬิกาหลังจากสิ้นสุดการเล่นในแต่ละรอบ
เริ่มทำการแจกไพ่
เมื่อทุกคนได้นั่งประจำตำแหน่งเรียบร้อยพร้อมที่จะเล่นแล้วก็ถึงเวลาแจกไพ่ อย่าลืมที่จะสับไพ่ให้ละเอียดด้วย เป็นมารยาททั่วไปที่จะให้ผู้เล่นทางขวาของผู้แจกไพ่ทำการตัดไพ่ และ นำไพ่ใบบนสุดพลิกกลับมาปิดไพ่ใบล่างไว้เพื่อไม่ให้มีใครสามารถมองเห็นว่ามันคือไพ่อะไร เริ่มแจกไพ่ใบแรกให้กับผู้เล่นคนแรกที่อยู่ทางซ้าย เราเรียกตำแหน่งนี้ว่า Small blind แจกวนไปทางขวาตามเข็มนาฬิกา รอบละ 1 ใบ จนครบตามจำนวน ซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทของโป๊กเกอร์ที่คุณตกลงจะเล่นกัน เช่น NLH ใช้ 2 ใบ , Omaha ใช้ 4 ใบขึ้นไป ฯลฯ
ผู้เล่นที่ต้องเริ่มตัดสินใจเป็นคนแรก
เมื่อผู้เล่นทุกคนได้รับแจกไพ่ครบแล้วก็ จะเริ่มเล่นโดยผู้เล่นคนแรกที่ต้องตัดสินใจว่าจะเล่นอย่างไร Call,Raise หรือ Fold ซึ่งก็คือผู้เล่นที่อยู่ทางซ้ายของตำแหน่ง Big blind ซึ่งในโป๊กเกอร์ทั่วไปเรียกตำแหน่งนี้ว่า UTG ย่อมาจาก Under The Gun
เริ่มการเล่นโป๊กเกอร์
ผู้เล่นทุกคนพร้อม! ได้รับแจกไพ่ครบทุกคน! ถึงเวลาเริ่มต้นเล่นโป๊กเกอร์แล้ว
การตัดสินใจของผู้เล่น (Player Action)
คุณเป็นผู้เล่นคนแรกที่ต้องตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ คุณยังไม่ทราบว่าคุณสามารถทำอย่างไรได้บ้าง ซึ่งในรอบเริ่มต้นนี้ ยังไม่ได้มีการเปิดไพ่กองกลางหรือ Community card เราเรียกรอบนี้ว่า Pre flop (รอบการเล่นก่อนที่ Flop จะเปิด) คุณสามารถตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งจาก 3 อย่างนี้ก็คือ Call ,Raise หรือ Fold เรามาทำความเข้าใจอย่างละเอียดกัน
- Call (คอล) – คือการตัดสินใจวางเดิมพันเท่ากับการ Bet ของผู้เล่นก่อนหน้า หากคุณเป็นผู้เล่นที่ตัดสินใจเป็นคนแรก การ Call จะเท่ากับการวางเดิมพัน เท่ากับขนาดของ Big blind หลังจากการตัดสินใจ Call แล้วผู้เล่นคนต่อไปทางด้านซ้ายจะเป็นคนตัดสินใจต่อไป
- Raise (เรส) – คือการตัดสินใจเพิ่มเงินเดิมพันขึ้น โดยขนาดที่น้อยที่สุดที่สามารถเลือกได้คือเท่ากับ ขนาดเดิมพันก่อนหน้าบวกด้วย 1bb ยกตัวอย่างเช่น ในการเล่นที่มีขนาด Big blind เท่ากับ 1$ ขนาดที่น้อยที่สุดที่สามารถใช้ในการ Raise เท่ากับ 2$ หากมีผู้เล่นก่อนหน้าคุณ Raise ที่ 2$ การ Raise ที่น้อยที่สุดที่คุณสามารถทำได้คือ 3$
- Fold (โฟลด) – คือการยอมแพ้และทิ้งไพ่ของเขาโดยการคว่ำหน้าไพ่ลงและส่งไพ่เข้ากองที่แยกไว้สำหรับผู้เล่นที่เลือก Fold ซึ่งการ Fold นั้นไม่จำเป็นต้องเสียชิปใดๆ เพิ่มเติมและเป็นการบอกว่าคุณจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการเล่นอีกต่อไป
Action หรือการตัดสินใจทั้ง 3 เป็นการเล่นในรอบ Pre flop สำหรับการ เล่น Post flop หรือการเล่นที่เปิดไพ่กองกลางแล้วจะมีการตัดสินใจเพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งอย่าง เรียกว่า Check
- Check (เช็ค)– คือการที่ผู้เล่นตัดสินใจที่จะผ่านการเล่นโดยไม่มีการ Raise หรือ Bet โดยมีเหตุผลเพื่อไม่ต้องการวางเดิมพันเพิ่มเติม
Showdown เปิดไพ่ของทุกคนเพื่อหาผู้ชนะ
หากไม่มีผู้เล่นใดที่ตัดสินใจ วางเดิมพันแล้วในรอบสุดท้าย ผู้เล่นที่เหลืออยู่ทุกคนจะต้องเปิดไพ่ของตนเพื่อหาผู้เล่นที่ถือไพ่ที่ดีที่สุด เป็นผู้ชนะ แน่นอนว่า ผู้เล่นที่มีประสบการณ์ จะไม่ต้องการให้ผู้เล่นที่อยู่บนโต๊ะทราบข้อมูลว่า มือของเขาถือไพ่ใด และ รู้วิธีการเล่นไพ่ของเขา ดังนั้น จึงมีกฏว่า ในรอบสุดท้ายจะเปิดไพ่ของผู้เล่นที่เป็นฝ่ายที่ Aggressive (เล่นด้วยความดุดัน) นั่นหมายถึงผู้เล่นที่เป็นคน Raise หรือ Bet ในรอบสุดท้ายและผู้เล่นที่เหลือเลือกที่จะ Call ขึ้นเป็นคนแรก และตามด้วยผู้เล่นทางด้านซ้าย หากการเล่นในรอบสุดท้ายไม่มีผู้เล่นใด Raise หรือ Bet ทุกคน Check หมด ผู้ที่จะต้องเปิดไพ่เป็นคนแรก คือคนแรกที่อยู่ทางซ้ายของ ตำแหน่ง Button
สำหรับ NLH โป๊กเกอร์ ผู้ชนะคือผู้เล่นที่มีไพ่ที่ดีที่สุด โดยต้องเปิดไพ่ในมือขึ้นให้เห็นทั้งสองใบ แม้ว่าจะใช้ใบเดียวก็สามารถชนะได้ก็ตาม ยกตัวอย่างเช่่น คุณชนะด้วยไพ่คู่ Ax ที่มี A บนบอร์ด 1 ใบ คุณจำเป็นต้องเปิดไพ่ A และ ไพ่อีกใบที่ไม่เกี่ยวข้องนั้นด้วย
Hand Ranking รูปแบบในการจัดอันดับไพ่
สำหรับการพิจารณาตัดสินว่า ผู้เล่นใดมีไพ่ที่ดีกว่าและเป็นผู้ชนะ รายละเอียดดังกล่าวนั้นใช้ในการแข่งขันโป๊กเกอร์มาอย่างยาวนานโดยมีรายละเอียดดังนี้ (เรียงตามรูปแบบที่มีความแข็งแกร่งที่สุดไปหาไพ่ที่มีรูปแบบที่อ่อนแอที่สุด )
- Royal Flush – ไพ่ในรูปแบบนี้ ประกอบไปด้วยไพ่ A K Q J และ T โดยที่ทั้งหมดมีสีและดอกเดียวกันทั้งหมด
- Straight Flush – ไพ่ในรูปแบบ ที่ไพ่ทั้งหมด มีการจัดเรียงต่อกัน 5 ใบ และมี สีและดอกเดียวกันทั้งหมด
- Four of a Kind – มีไพ่ที่เหมือนกันทั้งหมด 4 ใบ
- Full House – มีไพ่ที่เหมือนกัน 3 ใบ และ มีอีกสองใบเหมือนกัน
- Flush – ไพ่อะไรก็ได้ขอเพียงมีดอกเดียวกันทั้ง 5 ใบ
- Straight – ไพ่ทั้ง 5 ใบมีค่าเรียงต่อกัน
- Three of a Kind – มีไพ่ 3 ใบที่เหมือนกัน
- Two Pair – มีไพ่ที่จับคู่กันสองคู่
- One Pair – มีไพ่ที่จับคู่ได้คู่หนึ่ง
- High Card – ไพ่ในมือไม่สามารถจัดรูปแบบได้ดัง 9 ข้อที่ผ่านมา จึงพิจารณาว่าใครมีไพ่ที่สูงที่สุด
การสิ้นสุดการเล่น โป๊กเกอร์
เมื่อการแข่งขันได้มาถึงจุดสิ้นสุด สำหรับ โป๊กเกอร์ในรูปแบบทัวร์นาเมนต์ เมื่อจบทัวร์นาเมนต์ มีผู้ที่ได้ตำแหน่งชนะเลิศและจัดการกับเงินรางวัลเรียบร้อยก็สามารถสิ้นสุดการเล่นได้เลย แต่สำหรับการเล่นในรูปแบบ Cash game จะใช้ข้่อตกลงที่เรียกกันว่า Last 3 hand หรือ 3 รอบสุดท้าย
Last 3 Hand
การเล่นโป๊กเกอร์ รูปแบบ Cash game หากไม่มีข้อตกลงในการสิ้นสุดการเล่นย่อมส่งผลเสีย เนื่องจากอาจมีผู้เล่นที่กำลังเสียอยู่และไม่อยากเลิกทำให้เกิดปัญหาระหว่างกันได้ จึงอาจตกลงกำหนดเวลาที่จะเลิกเล่น และ สิ้นสุดด้วยการเล่น 3 ตาสุดท้าย ที่ผู้เล่นทุกคนตกลงร่วมกันว่า จะสิ้นสุดการเล่นใน 3 ตาสุดท้ายเพียงเท่านั้น ซึ่งจะทำให้ไม่มีปัญหาในภายหลัง
สรุปบทความ
และทั้งหมดคือ วิธีการเล่นโป๊กเกอร์ เริ่มตั้งแต่ต้นจนถึงสิ้นสุด โดยหวังว่าคุณจะสามารถทำความเข้าใจและนำไปใช้ในการแข่งขันได้อย่างถูกต้อง