กลยุทธ์ในการเล่น ไพ่ 2 Pair (2คู่)

2-pair-trick-2024-11-14

กลยุทธ์ในการเล่น ไพ่ 2 Pair (2คู่)

ใน การเล่น Poker ไพ่ 2 Pair(2คู่) จัดอยู่ในอันดับประเภทไพ่ ที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง นอกจากนี้ ไพ่ที่ติด 2 Pair ยังสามารถแบ่งออกได้หลายกลุ่มซึ่ง 2 Pair ในแต่ละกลุ่มไม่ได้มีความแข็งแกร่งเท่ากันทั้งหมด ในบทความนี้ คุณจะได้เรียนรู้ ทำความเข้าใจถึงนิยาม จุดแข็งที่มี และ กลยุทธ์ที่ได้ผลที่สุดในการเล่นไพ่ 2 Pair ที่จำเป็นทั้งหมด

หัวข้อต่างๆ

พื้นฐานในการเล่น 2 Pair

ก่อนที่เราเข้าสู่เนื้อหาหลักในบทความนี้ เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าไพ่ 2 Pair (2คู่) นั่นมีหมายความอย่างไร ?

นิยาม หรือ คำจำกัดความนั้นสามารถอธิบายได้ชัดเจนจากชื่อเรียกของมัน มันคือการที่คุณ นำไพ่บนมือของคุณ ทั้งสองใบ หรือ ใบใดใบหนึ่ง รวมกับ ไพ่ที่เปิดขึ้นบนบอร์ดอีก 5 ใบ (เราเรียกไพ่บนบอร์ดนี้ว่า Community Card) แล้วสามารถจัดคู่ได้ 2 คู่ และเลือกไพ่ที่เหลือที่ดีที่สุด มาเป็น Kicker (ตัวคุมที่ใช้วัดว่าใครมีไพ่ที่อันดับสูงกว่ากันในการหาผู้ชนะ)
ยกตัวอย่างเช่น

คุณสามารถนำไพ่ในมือไปจัดชุด ได้ไพ่ที่ดีที่สุดคือ A-A-Q-Q-J ในกรณีนี้ คุณมี 2 Pair คือ คู่ A และ คู่ Q (มี 2 คู่) โดยมี J เป็น Kicker

การตัดสินหาว่าใครมี ไพ่ 2 Pair ที่ดีกว่ากัน

ในการแข่งขัน หากผู้เล่นสองคนมีไพ่ 2 Pair ด้วยกันทั้งคู่ ผู้ชนะ คือผู้ที่มีไพ่คู่ใดคู่หนึ่งสูงกว่าคู่ต่อสู้ ยกตัวอย่างเช่น ผู้เล่นคนแรก มีไพ่ KK-44 ผู้เล่นคนที่สอง มีไพ่ JJ-TT ผู้เล่นคนแรกคือคนที่ชนะจากไพ่คู่ K ที่สูงกว่า ผู้เล่นคนที่สอง ที่ไพ่สูงที่สุดของเขามีเพียง ไพ่คู่ J

หากผู้เล่นทั้งสองมีคู่แรกที่สูงเท่ากัน เราจะพิจารณา ไพ่ในคู่ที่สองเพื่อหาผู้ชนะ ยกตัวอย่างเดิม ผู้เล่นคนแรก มีไพ่ KK-44 ผู้เล่นคนที่สอง มีไพ่ KK-TT ในคราวนี้ผู้เล่นคนที่สองมีไ่พ่คู่ที่สูงที่สุด เท่ากันกับคนแรก เราจึงต้องพิจารณาไพ่คู่ที่สองแทน ซึ่งผู้เล่นคนที่สองมี TT ที่สูงกว่า 44 ทำให้ผู้เล่นคนที่สองชนะไป

ในกรณีผู้เล่นทั้งสองมีไพ่ 2 Pair ที่เหมือนกันทั้งคู่ เราจะตัดสินจาก Kicker (ไพ่ที่เหลืออีก 1 ใบ ที่ไม่มีคู่) ว่าใครมีค่าสูงกว่า เราทำความเข้าใจจากตัวอย่างเช่นเดิม ผู้เล่นคนแรก มีไพ่ KK-44-A ผู้เล่นคนที่สองมีไพ่ KK-44-Q ผู้เล่นคนแรกจะเป็นฝ่ายชนะจาก ไพ่ Kicker A ที่มีค่าสูงกว่า
และสุดท้ายหากผู้เล่นทั้งคู่มี Kicker ที่เท่ากันอีก นั่นเท่ากับเสมอกัน และแบ่งชิปกองกลางกันคนละครึ่ง (Split Pot)
สถิติที่น่าสนใจ

ในเกมโป๊กเกอร์ NLH มีโอกาส 23.50% ที่คุณจะติด 2 Pair เมื่อเล่นจนถึง River
หากคุณสุ่มไพ่จากกองขึ้นมา 5 ใบ คุณมีโอกาสที่จะหยิบไพ่ที่สามารถเป็น 2 pair ได้ 4.75% หรือ 1 ใน 20 ครั้ง

ทำความเข้าใจความแข็งแกร่งของ 2 Pair อย่างถูกต้อง

เราได้เรียนรู้ถึงพื้นฐานเกี่ยวกับ 2 Pair ทั้งหมดไปแล้ว เรามาทำความเข้าใจถึงความแข็งแกร่งของ 2 Pair อย่างละเอียดเพิ่มขึ้น

2 Pair จัดเป็นไพ่ที่มีความแข็งแกร่งเป็นอันดับ 3 (นับจากท้าย) โดย สามารถเอาชนะ ได้เพียง 1 Pair และ High Card เท่านั้น แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ามันไม่แข็งแกร่ง ปัญหาก็คือ 2 Pair นั้นสามารถจัดแบ่งความแข็งแกร่งออกได้หลายกลุ่ม

2-pair-trick-2024-11-14-1

2 Pair ที่ต่ำสุดบนบอร์ด

สมมติว่าคุณมีตำแหน่งในการเล่นอยู่ที่ Big Blind เลือกที่จะ Call การ Raise ของคู่ต่อสู้ ด้วยไพ่ 7♠6♥ คุณโชคดีที่ Flop เปิดออกมาเป็น A♥7♦6♣ ทำให้ ขณะนี้คุณติด 2 Pair ซึ่งถือว่าเป็นไพ่ที่ดีมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อคู่ต่อสู้ที่เป็นฝ่าย Raise ในการเล่นรอบ Pre-Flop มีโอกาสที่เขาจะมีไพ่ในกลุ่ม Ax ที่แข็งแกร่งพอที่จะเล่นต่อไปได้

ปัญหาเดียวที่คุณสามารถมีได้นั่นก็คือ หากคู่ต่อสู้ของคุณมีไพ่ประเภท AT ขึ้นไป มีโอกาสสูงมากที่คู่ต่อสู้ของคุณจะไม่ยอมหมอบให้กับคุณในการเล่น และ หากเขาโชคดี ไพ่ใบต่อมาเปิดมาเป็น T ทำให้เขามี 2 Pair ที่สูงกว่า หรือ โชคร้ายที่สุด คือ ไพ่ที่จะเปิดขึ้นอีก 2 ใบในรอบ Turn และ River เปิดไพ่ใบเดียวกันซ้ำกัน (Counterfeit) หรือ A อีก 1ใบ ก็จะทำให้คุณตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากมาก

2 Pair ที่สูงสุดบนบอร์ด

ต่างจาก 2 Pair ที่ต่ำที่สุดบนบอร์ดจากหัวข้อที่ผ่านมาก การติด 2 Pair ที่ใหญ่ที่สุดบนบอร์ด ทำให้การเล่นของคุณแทบไม่มีความกังวลใดๆในการเล่นเลย เนื่องจาก มันมีความแข็งแกร่งมากกว่ามาก แต่ทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในขณะเล่นด้วย ลองดูตัวอย่างต่อไปนี้

ลองยกตัวอย่างในกรณีที่คุณถือไพ่ K♠8♠ และไพ่ที่ Flop เปิดออกมาเป็น K♦8♥7♣ ที่บอร์ดนี้ โอกาสที่จะมีไพ่ที่มีความแข็งแกร่งและเอาชนะคุณมีได้น้อยมาก คุณปลอดภัยจากโอกาสที่คู่ต่อสู้จะมี Straight หรือ Flush มีเพียง Set 7 เท่านั้นที่มีโอกาสจะชนะคุณได้ ซึ่งมันเกิดขึ้นได้ไม่บ่อยนัก

แต่ความแข็งแกร่งของไพ่ 2 Pair ที่สูงสุดบนบอร์ดจะต่างออกไปจากหัวข้อที่ผ่านมา ลองพิจารณาจากตัวอย่างในกรณีนี้ ที่เปลี่ยนให้คุณถือไพ่ J♣T♣ และ ไพ่ที่ Flop เปิดออกมาเป็น J♥T♥8♥ คุณยังมีไพ่ Top 2 Pair (2 Pair ที่มีความแข็งแกร่งที่สุด) แต่ความรู้สึกแตกต่างจากกรณีแรกมากเนื่องจาก บนบอร์ดนี้ คู่ต่อสู้มีโอกาสที่จะมี Flush หรือ Straight มี่สามารถเอาชนะคุณได้ แม้ว่าเขาอาจจะยังไม่มีในตอนนี้ แต่ก็อาจมีลุ้นที่จะติดอยู่ในการเล่นรอบต่อๆไปที่ Turn หรือ River รวมถึง Set 8 ที่คู่ต่อสู้ยังมีโอกาสมีได้อยู่ หรือที่เราเรียกบอร์ดในประเภทนี้ว่า Wet Board (คือบอร์ดที่ผู้เล่นสามารถมีไพ่ที่แข็งแกร่งได้หลายๆ รูปแบบ)

ทั้งสองกรณีคือการที่คุณติด 2Pair ที่สูงที่สุดบนบอร์ดเหมือนกัน แต่กลยุทธ์ที่จะนำมาใช้รวมถึงสถานการณ์ในการเล่นมีความแตกต่างกันเป็นอย่างมาก

กลยุทธ์ที่ได้ผลที่สุดในการเล่น 2 Pair

ด้วยเหตุดังกล่าวข้างต้น กลยุทธ์ที่ใช้ในการเล่น 2 Pair จึงไม่มีกลยุทธ์ที่ถูกต้องที่สุด หรือ ตายตัว เราจึงควรใช้การวิเคราะห์สถานการณ์การเล่นในขณะนั้นประกอบการตัดสินใจเลือกใช้กลยุทธ์ ที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งเราได้ยกตัวอย่างในสถานการณ์จริงมาใช้ เพื่อให้คุณได้เห็นภาพว่าควรใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมจากสถานการณ์เช่นใดบ้าง

ไม่เล่น 2 Pair ด้วยการ Slow play

สมมุติให้คุณเป็นฝ่าย Aggressive ในการเข้ามาเล่นที่ Flop ไม่ว่าคุณติด 2 Pair ที่สูงที่สุดบนบอร์ด หรือ ต่ำที่สุด คุณควรสร้าง Pot ให้ใหญ่จากการ Bet หรือ Raise เพื่อกำไรสูงสุดของคุณและป้องกันไม่ให้คู่ต่อเกิดความคุ้มค่าจากการที่คุณพยายามเล่นด้วยการ Slow play หรือในกรณีที่คุณต้องเข้ามาเล่นใน Pot ที่มีผู้เล่นหลายๆคน ด้วยการ Limp (ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ไม่แนะนำให้เล่น) เมื่อคุณติด 2 pair คุณจึงควรใช้ความดุดันเพื่อลดจำนวนคู่ต่อสู้ให้เหลือน้อยที่สุดเพื่อโอกาสชนะของคุณที่จะเพิ่มมากขึ้น

แผนการเล่นกับผู้เล่นมากกว่า 2 คน

สิ่งที่เน้นย้ำอยู่เสมอก็คือ การเล่นของคุณจะต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น เมื่อต้องเล่นใน Pot ที่มีผู้เล่นหลายๆคน ซึ่งความแข็งแกร่งของไพ่ของคุณ จะยิ่งลดลงตามจำนวนผู้เล่นที่เหลืออยู่บนโต๊ะ นอกจากนี้ การที่มีผู้เล่นหลายๆคน ทำให้คุณพลาดโอกาสในการทำกำไรกับผู้เล่นที่มีไพ่ที่ไม่แข็งแกร่งเนื่องจาก เขามักจะเลือกที่จะหมอบไพ่ที่คุณต้องการให้เขานำมาเล่นกับคุณทิ้งไป เหลือแต่ผู้เล่นที่มีไพ่ที่แข็งแกร่งเท่านั้น

การต่อสู้ระหว่าง ผู้เล่นที่ตำแหน่ง Blind

ในกรณีที่คุณอยู่ที่ตำแหน่ง Small Blind คุณสามารถ คาดคะเนได้ว่า มีโอกาสที่ไพ่ของคุณจะแข็งแกร่งกว่าผู้เล่นที่ตำแหน่ง Big Blind อันเนื่องมาจากผู้เล่นหรือคู่ต่อสู้ที่ตำแหน่ง Big Blind มี Range ของไพ่ที่จะนำมาเล่นกว้างมาก ซึ่งจะทำให้โดยส่วนใหญ่เมื่อ Flop เปิดขึ้นไพ่่ของคุณจะยังคงมีโอกาสชนะได้มากกว่า ดังนั้นการวางเดิมพันจึงทำเพื่อ Value หรือการทำกำไร และ กดดันให้คู่ต่อสู้เล่นพลาด ในทางกลับกันหากคุณเป็นผู้เล่นที่อยู่ที่ตำแหน่ง Big Blind ข้อดีของกํ็คือการมีตำแหน่งในการเล่นที่ได้เปรียบซึ่งจะทำให้มีทางเลือกในการใช้กลยุทธ์หรือตัดสินใจที่ดีกว่า

ข้อควรพิจารณาโดยทั่วไป

นำข้อแนะนำเหล่านี้ไปใช้พิจารณาแนวทางการเล่นในทุกครั้ง ที่คุณติด 2 Pair

  • เมื่อมีไพ่ เปิดออกมาซ้ำกัน ทำให้บนบอร์ดมี 1 คู่ (Pair Board) – ในการเล่นของคุณเมื่อใดก็ตามที่มีไพ่เปิดออกมาซ้ำกับไพ่ที่เปิดอยู่ก่อนหน้านั่นแล้ว มันหมายถึงโอกาสที่จะมีผู้เล่นคนใดคนหนึ่งมี 2 คู่ได้ (จากในตอนแรกที่มีเพียงคู่เดียว) ดังนั้นคุณจึงควรระมัดระวังเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์นี้ เรามีชื่อเรียกสถานการณ์นี้โดยเฉพาะว่า Counterfeited (เค้าเตอร์ฟรีท) โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณถือไพ่ 2 Pair ที่ไม่ได้มีความแข็งแกร่งที่สุด เนื่องจากคู่ต่ออาจมีไพ่คู่ที่ใหญ่กว่าคุณและเอาชนะคุณได้
  • เมื่อบอร์ดมีโอกาสที่คู่ต่อสู้จะติดไพ่ที่ใหญ่กว่าคุณ – เมื่อการเล่นอย่างดุดันของคุณไม่สามารถทำให้คู่ต่อสู้ของคุณยอมแพ้ จนถึงการเล่นที่ Turn หรือ River มีไพ่ที่เกี่ยวข้องกันสูงและที่ทำให้คู่ต่อสู้มีโอกาสที่จะติดไพ่ที่ใหญ่กว่าคุณได้มากมาย แผนการเล่นของคุณควรเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น
  • ผู้เล่นที่มักจะนำไพ่ที่กว้างมากกว่าปกติมาเล่น – สังเกตผู้เล่นที่เล่นไพ่กว้างมากกว่าปกติ (Loose) เขามักจะติด 2 Pair ได้มากกว่าผู้เล่นที่มักจะเล่นอย่างรัดกุม (Tight) อย่าตัดสินจากบอร์ดว่าไม่มีใครนำไพ่แบบนี้มาเล่น เพราะเขาอาจจะมี
  • ขนาดของชิปหน้าตัก (Stack Size) – หากชิปที่คุณเหลืออยู่มีไม่มาก แผนการเล่น 2 Pair ของคุณนั้นก็จะง่ายขึ้นเพราะไม่มีความกังวลจาก SPR แต่หากคุณมีชิปหน้าตักเหลือมาก คุณต้องนำข้อแนะนำในการเล่นไปใช้อย่างรอบคอบ เพราะคุณคงไม่อยากเสียชิปมากกว่า 200bb ไปกับการเล่น 2 Pair

สรุปบทความ

การทำความเข้าใจ , มีแผนการเล่นที่ถูกต้อง , ประเมินความเสี่ยงและความเป็นไปได้จากบอร์ดอย่างรอบคอบ ,ศึกษาการเล่นของคู่ต่อสู้ เมื่อคุณปรับกลยุทธ์ของคุณให้เหมาะสมกับตัวแปรข้างต้นจะช่วยให้คุณสามารถทำให้ไพ่ 2 Pair ของคุณ สามารถทำกำไรได้สูงสุด หรือ สูญเสียน้อยที่สุด และประสบความสำเร็จในการเล่นโป๊กเกอร์ตลอดเวลา