กลยุทธ์ในการเล่น Open Ended Straight Draw
เมื่อคุณเข้าไปเล่นที่ Flop โดยไพ่ที่เปิดมาทำให้คุณมีลุ้น Open-Ended Straight Draw (ลุ้นที่จะติดเรียงหัวท้าย) เราสามารถใช้อักษรย่อที่เป็นมาตรฐานสำหรับการเล่นโป๊กเกอร์คือ “OESD” มันเป็นความรู้สึกดี ตื่นเต้นจนเลือดสูบฉีด และ หวังว่าหากคุณติดขึ้นมาจริงๆ คุณจะสามารถทำกำไรจากการเล่นนี้ได้มากอย่างแน่นอน ดังนั้น ในบทความนี้ N8TH จะมาแนะนำรู้วิธีการเล่น Open-Ended Straight Draw ที่ถูกต้อง เพื่อที่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการเล่น Poker
Open-Ended Straight Draw คืออะไร?
ก่อนที่เราจะเรียนรู้เนื้อหาที่มีความซับซ้อน เราควรจะอธิบายให้ชัดเจนก่อนว่า Straight Draw มีความหมายว่าอย่างไร ?
Straight Draw มีความหมายว่า คุณกำลังมีลุ้น และ โอกาสที่จะติด Straight (เรียง) จากไพ่อีกเพียงใบเดียวที่กำลังจะเปิดขึ้นในการเล่นรอบต่อไป โดยคุณสามารถใช้ไพ่ 1 หรือ 2 ใบบนมือ กับไพ่บนบอร์ด ซึ่งไพ่ในลักษณะนี้แบ่งออกเป็นสองประเภท ดังนี้
- Inside Straight Draw : คุณมีลุ้นที่จะติด Straight จากไพ่ที่อยู่ตรงกลาง หรือ มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Gutshot Straight Draw ตัวอย่างเช่น ไพ่ 6-7-8-T คุณต้องการไพ่ 9 เท่านั้นที่จะทำให้คุณติด Straight
- Open-Ended Straight Draw : คุณมีลุ้นที่จะติด Straight จากไพ่ที่หัวหรือท้าย จะทำให้คุณติด Straight ตัวอย่างเช่น 3-4-5-6 คุณต้องการ ไพ่ 2 หรือ 7 ก็ได้ซึ่งจะทำให้คุณติด Straight
OESD ประกอบด้วยไพ่ชุดใดก็ได้บนบอร์ด (Flop,Turn หรือ River) ร่วมกับไพ่ในมือของคุณ (หรือไม่ก็ได้ แต่ถ้าไม่ได้ใช้ไพ่ในมือคุณเลยจะเป็นการเสมอและแบ่งเงินรางวัลกัน) จากตัวอย่างในตารางด้านล่าง ที่ทั้งหมดเป็น OESD
จากตัวอย่างจะเห็นได้ว่า ทั้งหมดเป็นการลุ้น ที่จะติด Straight ในรูปแบบ Open-Ended โดยมีความแตกต่างกัน ก็คือ ในแถวแรกของตาราง คุณใช้ไพ่สองใบในมือของคุณ 8♥ 9♥ หรือ ใช้เพียง T♠ ในแถวที่สอง และ ในแถวสุดท้ายคุณไม่จำเป็นต้องใช้ไพ่ในมือของคุณเลย เพื่อที่จะติด Straight
ซึ่งการที่คุณใช้ไพ่ในมือทั้งสองใบจะมีความแข็งแกร่งมากที่สุด แตกต่างจาก แถวสุดท้ายที่ไม่ได้ใช้ไพ่ในมือของคุณเลย ทำให้มีความอ่อนแอที่สุดเนื่องจากจะทำได้แค่เสมอกับคู่ต่อสู้และแบ่งชิปกองกลางกันเมื่อเปิดไพ่ Showdown นอกจากนี้ การที่คุณมีลุ้นจากไพ่ในมือทั้งสองใบยังทำให้คู่ต่อสู้ไม่สามารถสังเกตได้ง่ายอีกด้วย และ บทความนี้จะมุ่งเน้นกลยุทธ์ไปที่กรณีนี้
กลยุทธ์ในการเล่น Open-Ended Straight Draw?
กลยุทธ์การเล่น OESD นั้นไม่ได้มีแผนการเล่นเพียงอย่างเดียว ด้วยการ Call และ ลุ้นว่าจะติดหรือไม่เท่านั้น ปัจจัยหลักที่ใช้ในการตัดสินใจว่าจะเล่นไพ่ OESD อย่างไร ก็คือความคุ้มค่าจาก Pot Odds
ถึงจุดนี้เราทราบดีว่าเราสามารถติด Straight ในกรณีนี้ได้จากไพ่ 2 ตัว นั่นหมายถึง โอกาสทั้งหมดจากไพ่ 8 ใบ เราลองใช้ตัวอย่างจากตาราง ดังนี้
คุณถือไพ่ 8♥ 9♥ ที่ Flop 7♥ T♥ 2♠ คุณต้องการ ไพ่ 6 ที่มี 4 ใบ และ J ที่มี 4 ใบ
ด้วย 8 Outs ที่น่าจะทำให้คุณมีโอกาสชนะทั้งหมด ที่ Turn และ River อยู่ที่ 31.5% ซึ่งหากไพ่ที่ Turn ไม่ใช่ คุณจะเหลือโอกาสอีก 17.4% สำหรับ River ใช้ค่าที่ได้นี้เป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจของคุณ แน่นอนว่าหากคุณมีผลของอัตราต่อรองที่ไม่คุ้มค่า การเล่นที่ถูกต้องก็คือ คุณควรที่จะโยนไพ่ของคุณทิ้งไป
ตัวอย่างจากสถานการณ์ ในการ เล่นโป๊กเกอร์
สถานการณ์ทั่วไป ในการเล่นโป๊กเกอร์ ที่คุณอาจพบเมื่อถือไพ่ที่มีลุ้น Open-Ended Straight Draw(OESD)
มีการ Raised เช้ามาเล่นกัน แบบ Heads Up (ตัวต่อต่อ 2 คน )
เราจำลองสถานการณ์ ให้คุณเป็นฝ่าย Raise เข้ามาเล่นจากตำแหน่ง Late Position ด้วยไพ่ KQs (ไพ่ที่มีสี-ดอกเดียวกัน) มีคู่ต่อสู้เพียงคนเดียว Call และ ที่ Flop คุณมีลุ้น OESD บนบอร์ดที่ไพ่ทุกใบมีสี-ดอก แตกต่างกัน (ไม่มีโอกาสลุ้นติดสี) แน่นอนว่าแผนการเล่นปกติ คู่ต่อสู้จะต้อง Check ให้กับคุณเป็นฝ่ายตัดสินใจเล่นในรอบ Flop แผนการเล่นตามที่่ Solver แนะนำให้ใช้ คือการ Bet อย่างน้อย ที่ขนาด 1/3 Pot
นอกจากจะเป็นการพยายามสร้างขนาดของชิปกองกลางให้ใหญ่ที่สุดเมื่อคุณติด Straight แล้วมันยังเป็นการสร้างความได้เปรียบด้วยการเล่นที่ดุดันและตำแหน่งการเล่นที่ได้เปรียบ ที่สามารถทำให้คู่ต่อสู้ยอมแพ้ได้
ในทางกลับกัน สมมติว่าคุณเป็นฝ่าย Call ในการเล่นรอบ Pre-Flop คุณ Raise จากตำแหน่ง Middle-Position และ คู่ต่อสู้ที่ตำแหน่ง Button เลือกที่จะ 3-Bet กลับมาที่คุณ Call ที่ Flop เปิดขึ้นมาคุณมีลุ้น OESD คุณ Check และ พร้อมจะ Call หากคู่ต่อสู้ C-Bet
ในกรณีนี้ คุณควรผสมแผนการเล่น ระหว่าง Check-Call กับการ Check-Raise ในความถี่ที่เท่ากันโดยประมาณ เพื่อไม่ให้คู่ต่อสู้สามารถจับทางวิธีการเล่นของคุณได้
สถานการณ์ที่มีผู้เล่นมากกว่าหนึ่งคน
หากคุณ Raise และ พบว่ามีคู่ต่อสู้มากกว่าหนึ่งคน Call เข้าไปเล่นในรอบ Flop มันจึงซับซ้อนเกินกว่าจะระบุได้ว่ากลยุทธ์ใดคือกลยุทธ์ที่ถูกต้อง คุณจึงควรผสมผสานกลยุทธ์ระหว่าง การ Check และ Bet แน่นอนว่าแผนการเล่นด้วยการ Check ดูจะเป็นการเล่นที่ค่อนข้างดีจากการที่คุณจะสามารถดูไพ่ใบต่อไปได้ในราคาที่เหมาะสมและได้รู้ว่าคุณมีโอกาสชนะมากหรือน้อยเพียงใด
อย่างไรก็ตาม คุณไม่ควรทิ้งแผนการเล่นด้วยการ Bet ไปเพื่อไม่ให้คู่ต่อสู้คาดเดาการเล่นของคุณได้ ขนาดเดิมพันเล็กๆ เป็นแนวทางที่ดีที่สุด เนื่องจากคู่ต่อสู้ที่มีไพ่ที่แข็งแกร่งบางอย่างที่ Flop เช่น Top-Pair จะไม่หมอบให้คุณ ไม่ว่าคุณจะเพิ่มขนาดของชิปเดิมพันมากขึ้น (ทำให้คุณเสี่ยงเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็น)
สรุปบทความ
Open-Ended Straight Draw เป็นไพ่ในกลุ่มที่สามารถเล่นได้ดี ซึ่งกลยุทธ์โดยทั่วไป คือการพยายามเล่นอย่างดุดันและกดดันเอาชนะให้ได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม หากคู่ต่อสู้ของคุณพร้อมที่จะสู้จากไพ่ที่แข็งแกร่งของเขา คุณก็ยังมีโอกาสถึง 1 ใน 3 ที่จะประสบความสำเร็จ และเอาชนะชิปกองกลางก้อนโตมาเป็นของคุณ