Big Blind ในเกมโป๊กเกอร์คืออะไร?

ในการเล่นหรือแข่งขันโป๊กเกอร์ มีผู้เล่นอยู่ 2 ตำแหน่งที่ต้องวางชิปเดิมพันลงบนกองกลางก่อนที่จะเริ่มต้นเล่นในแต่ละรอบเสมอ ได้แก่ ผู้เล่นตำแหน่ง Small Blind และ ตำแหน่ง Big Blind โดยผู้เล่นตำแหน่ง Small Blind มีตำแหน่งในการนั่งอยู่ถัดไปจากตำแหน่ง Button ทางด้านซ้าย ส่วนผู้เล่นในตำแหน่ง Big Blind มีตำแหน่งในการนั่งถัดจากตำแหน่ง Small Blind ไปทางด้านซ้าย

เมื่อการแข่งขันในรอบนั้นจบลง ตำแหน่งในการเล่นจะเปลี่ยนแปลงไปโดยเลื่อนไปทางด้านซ้าย ยกตัวอย่างเช่น ตำแหน่ง Button (ตำแหน่ง ปุ่ม , ดีลเลอร์) จะเลื่อนไปทางซ้ายหนึ่งตำแหน่ง (เป็นตำแหน่งเดิมที่เป็นตำแหน่ง Small Blind) และ ตำแหน่ง Big Blind จะเลื่อนมาเป็นตำแหน่ง Small ฺBlind ฯลฯ

ทำไมจึงต้องมี Big Blind ในเกมโป๊กเกอร์?

Blind ในการเล่นโป๊กเกอร์ มีผลทำให้ผู้เล่นมีแรงจูงใจที่จะเล่นมากขึ้น เนื่องจาก มีเงินอยู่บนกองกลางแล้วส่วนหนึ่ง (1.5bb) ทำให้ต้องพยายามเล่นอย่างดุดันขึ้นเพื่อพยายามสร้างกำไรจากชิปเหล่านั้น และ พยายามที่จะไม่ยอมขาดทุนหรือ เสียชิปที่ตัวเองถูกบังคับให้ลงเดิมพันจากการที่ต้องเล่นในตำแหน่ง Blind หากไม่มีบังคับการวางเดิมพันที่ตำแหน่ง Blind ผู้เล่นจะพยายามเล่นแต่ไพ่ที่มีโอกาสชนะมากขี้นเนื่องจากไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเสี่ยงนั่นเอง (นั่นรอไพ่ได้โดยที่ไม่เสียอะไรเลย นั่นหมายถึง นั่นรอทั้งวันได้ !)

บิ๊กบลายด์เป็นตำแหน่งที่ดีหรือไม่?

ตำแหน่ง Big Blind ไม่ใช่ตำแหน่งที่ดีในการเล่นโป๊กเกอร์ ซึ่งมีข้อถกเถียงที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่า ตำแหน่ง Big Blind นั้นเป็นตำแหน่งที่แย่ที่สุดบนโต๊ะหรือไม่? เนื่องจากอัตราชนะ หรือ ผลกำไร โดยเฉลี่ยของการเล่นในตำแหน่งนี้ ในทุกๆ 100 แฮนด์ คุณจะเสีย -100bb หมายความว่า ทุกๆครั้งที่คุณต้องเล่นในตำแหน่งนี้คุณจะเสีย 1bb โดยเฉลี่ย (เท่ากับคุณต้องหมอบและเสียชิปไปฟรีๆทุกครั้ง) มันบ่งชี้ว่าคุณไม่สามารถทำกำไร หรือ เล่นได้เท่าทุนในตำแหน่งนี้ นั่นก็เพราะ Big Blind เป็นตำแหน่งที่ต้องถูกบังคับให้วางเดิมพัน 1bb ตั้งแต่ไม่ได้ดูไพ่นั่นเอง

กลยุทธ์ในการเล่นที่ตำแหน่ง Big Blind

การต้องเล่นในตำแหน่ง Big Blind เป็นสิ่งที่ทำได้ยากที่สุดในการเล่นโป๊กเกอร์ เนื่องจากการที่คุณได้รับประโยชน์จากราคาที่ลดลงเมื่อคุณตัดสินใจ Call ในการเล่นรอบ Pre-Flop เปิดโอกาสให้คุณจะนำไพ่กว้างกว่าปกติเข้าไปเล่น (ซึ่งส่วนใหญ่อ่อนแอ) และมันก็เป็นจุดอ่อนให้คู่ต่อสู้โจมตีคุณได้ในการเล่น Post-Flop ภายหลังได้

มันจึงเป็นการยากที่จะมีผู้เล่น สามารถใช้แผนการเล่นที่สมดุลอย่างถูกต้องเหมาะสม เมื่อต้องเล่นที่ตำแหน่งนี้ ดังนั้น ในหัวข้อนี้ เราขอเสนอกลยุทธ์ที่ดีที่สุดเมื่อคุณต้องเล่นที่ตำแหน่ง Big Blind

Pre-Flop

ดังที่ได้กล่าวไปข้างต้น การเล่ือกแผนการเล่นที่สมดุลเมื่ออยู่ที่ตำแหน่ง Big Blind นั้นทำได้ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณได้ไพ่ที่ไม่ค่อยดีนัก เรามาดูแผนการเล่นที่แนะนำให้คุณนำไปใช้ในการเล่น

Call ให้น้อยลงกับผู้เล่นในตำแหน่ง Early Position
การที่คุณอยู่ที่ตำแหน่ง Big Blind แล้ว เพิ่มเงินอีกเล็กน้อยก็สามารถเข้าไปเล่นเพื่อลุ้นติดอะไรบางอย่างแล้วชนะ ไม่ได้หมายความว่าคุณจะสามารถนำไพ่อะไรไปเล่นก็ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อคู่ต่อสู้อยู่ในตำแหน่ง Early Position

เนื่องจาก Range ของคู่ต่อสู้ที่อยู่ในตำแหน่งนี้ โดยส่วนใหญ่เป็น Range ที่แข็งแกร่ง มันจึงเป็นการยากที่คุณจะสามารถคำนวณโอกาสชนะของคุณได้อย่างถูกต้อง (Realize Equity) และ ต้องยอมหมอบทิ้งไป หากคุณถูกกดดันจากการเล่นที่ดุดัน และ ขนาดการวางเดิมพันสูงของคู่ต่อสู้

แฮนด์ในกลุ่ม Ax offsuite, Kx ,Qx ,Jx K8o หรือ J7o ฯลฯ ควรเลือกที่จะหมอบทั้งหมด เนื่องจากเป็น Range เดียวกับที่คู่ต่อสู้ที่ ตำแหน่ง Early จะใช้เล่น ทำให้คุณอาจตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากถึงแม้ว่าจะติด Top-Pair ก็ตาม เมื่อคู่ต่อสู้ Raise กดดันด้วยขนาดใหญ่ดังนั้น ประหยัดชิปที่คุณจะนำมา Call และ อาจเสียไปทั้งหมด ด้วยการ Fold ดีกว่า

3bet อย่างดุดันกับผู้เล่นในตำแหน่ง Late Position
ในทางกลับกัน หากคุณต้องเผชิญหน้ากับผู้เล่นที่อยู่ในตำแหน่ง Late Position ที่ทำการ Raise เราแนะนำให้คุณเล่นด้วยความดุดัน โดยการ 3-Bet กดดัน คู่ต่อสู้ให้บ่อยขึ้น คุณอาจคิดว่าเมื่อคุณได้โอกาสที่เข้าไปเล่นด้วยการ Call เพียงเพิ่มชิปอีกเล็กน้อย ทำไมต้อง 3-Bet ด้วย ?

การที่คุณได้ส่วนลดในการเล่น ไม่ใช่เหตุผลที่จะเปลี่ยนให้คุณเป็นผู้เล่น Passive เนื่องจากการที่คุณใช้วฺิธีการเล่นที่ Passive นั้นจะทำคุณคุณมีโอกาสเสียชิปและขาดทุนได้ในระยะยาว คุณต้องเสียเปรียบตำแหน่งในการเล่น และ ต้อง Fold โดยส่วนใหญ่หากคุณไม่ติดอะไร หาก ถูกคู่ต่อสู้ กดดันในการเล่น Post-Flop

เนื่องจากคู่ต่อสู้ที่ตำแหน่ง Late Position มักจะพยายามโจมตี ผู้เล่นที่ตำแหน่ง Blind ดังนั้นเขาจึงจะ Raise ด้วยไพ่ที่ไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก และ โดยส่วนใหญ่จะกว้างมากกว่าปกติ ดังนั้นคุณจึงสามารถโจมตีคู่ต่อสู้ด้วยการ 3-Bet ได้กว้างมากขึ้นจากไพ่อย่างเช่น 99, 88 ,77 หรือ ไพ่ในกลุ่ม Suited Broadway เช่น KJ ,QT , JT ฯลฯ และไพ่ในกลุ่ม Suited Connect เช่น 9♥8♥ , 8♦7♦ , 7♣6♣ฯลฯ

ด้วยแผนการเล่นนี้ คุณจะพบว่า คุณสามารถชนะโดยการที่คู่ต่อสู้มักจะยอมหมอบในการเล่นโดยส่วนใหญ่ให้คุณ และ ถึงแม้ว่าคู่ต่อสู้จะยังไม่ยอมแพ้ ด้วยแผนการเล่นที่ดุดัน (Pre-Flop Aggressor) ทำให้คุณเป็นฝ่ายที่สามารถกดดันคู่ต่อสู้ในรอบ Post-Flop ได้ต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการเล่นที่มีประสิทธิภาพ

Post-Flop

การเล่นที่ตำแหน่ง Big Blind ในรอบ Post-Flop มีแผนการเล่นที่จะนำมาใช้นั้นค่อนข้างซับซ้อน เนื่องจาก คุณเป็นฝ่ายที่ต้องเล่นก่อน(OOP) และ แฮนด์ที่คุณ เลือกที่จะ Call เข้ามาเล่นนั้นค่อนข้างกว้าง ดังนั้นหากคุณเลือก Check และ Fold เมืิ่อไพ่คุณไม่ติดอะไรก็จะเป็นการเล่นที่ค่อนข้างจะอ่อนแอ แต่หากเลือกที่จะ Check/Raise มันก็เป็นการเล่นที่เสี่ยงมากๆ ที่จะใช้ กับ Range ของคู่ต่อสู้มีความแข็งแกร่งมากกว่า

ดังนั้น เราจึงเสนอเคล็ดลับที่จะช่วยคุณ ให้นำไปใช้ในแผนการเล่นของคุณ
Check-Raise ให้บ่อยขึ้น – ในการเล่นโป๊กเกอร์ออนไลน์ห้องที่มีระดับไม่สูงนักผู้เล่นส่วนใหญ่มักจะ C-bet แทบทุกไพ่ใน Range ของพวกเขา นั่นทำให้เราสามารถใช้กลยุทธ์ Check-Raise โจมตีผู้เล่นเหล่านี้ได้
Call ให้กว้างขึ้น – คุณต้องไม่หมอบมากจนเกินไป จนทำให้สามารถคาดเดาแผนการเล่นได้ง่าย หากคุณเลือกที่จะ Call เฉพาะเมื่อคุณติด Top-Pair หรือ กำลัง Draw เฉพาะที่มีความแข็งแกร่งเท่านั้น คุณควรเพิิ่ม การลุ้น Gutshot (ไพ่ที่มีลุ้น Straight จากไพ่ตรงกลาง) หรือ Over-Card (คุณถือไพ่ที่ใหญ่กว่า Flop ที่เปิดขึ้นมา) หรือ แม้แต่ Backdoor Flush Draw การเพิ่ม โอกาสในการเล่นจากไพ่เหล่านี้ จะช่วยให้คุณไม่หมอบมากจนเกินไปจนกลายเป็นผู้เล่นที่สามารถจัดการได้ง่าย

สรุปบทความ

ตำแหน่ง Big-Blind เป็นตำแหน่งที่เล่นยากมากทั้งใน เกมโป๊กเกอร์เงินสด และ โป๊กเกอร์ทัวร์นาเมนต์ คุณต้องเล่นในตำแหน่งที่มีอัตราการชนะ (Winrate) ที่แย่ที่สุดบนโต๊ะ นอกจากนั้น คุณยังต้องเสียเปรียบตำแหน่งในการเล่นทุกรอบในการเล่น Post-Flop อีกด้วย (OOP) อย่างไรก็ตาม ด้วยเคล็ดลับที่เราอธิบายในบทความนี้ จะช่วยให้คุณสามารถเพิ่มอัตราการชนะของคุณเมื่อต้องเล่นในตำแหน่งนี้ได้ รวมไปถึงอัตราชนะที่เพิ่มขึ้นในการเล่นทั้งหมดของคุณ