โป๊กเกอร์เงินสด VS โป๊กเกอร์ทัวร์นาเมนต์

โป๊กเกอร์เงินสด (Cash Game) คือเกมโป๊กเกอร์ที่ไม่มีการกำหนดระยะเวลาในการเล่น คุณสามารถเลือกที่จะเล่น และ เลิก ในเวลาไหนก็ได้ตามที่คุณต้องการ นอกจากนี้ ผู้เล่นยังสามารถเลือก ระดับในการเล่น, ห้องหรือโต๊ะ และ ตำแหน่งที่ต้องการเล่น ได้อย่างอิสระ แม้กระทั้งชิปเริ่มต้นที่จะเริ่มเล่นก็ยังสามารถกำหนดเองได้ว่าต้องการนำเข้าไปเล่นที่เท่าไหร่

โป๊กเกอร์ทัวร์นาเมนต์ (Tournament) คือเกมโป๊กเกอร์ที่มีระบบการแข่งขันหาผู้ชนะ ซึ่ง ผู้เข้าแข่งขันทุกคนจะต้องเสียค่าสมัคร (หรือ ไม่เสียในกรณีที่เป็นทัวร์นาเมนต์พิเศษ) กำหนดเวลาแข่งขันอย่างชัดเจนว่าจะเริ่มต้นขึ้นเมื่อใด มีรายละเอียดของรางวัลในแต่ละตำแหน่ง,อันดับในแข่งขัน (รางวัลอาจเพิ่มขึ้นได้จากจำนวนผู้สมัคร ,จำนวน Re-Buy ฯลฯ) ว่าเงินรางวัลจะมอบให้แก่ผู้เข้าแข่งขันตำแหน่งใดบ้าง นอกเหนือจากรายละเอียดในเรื่องค่าสมัครและเงินรางวัลแล้ว ยังมีความแตกต่างที่สำคัญอีกประการก็คือกำหนดเวลาที่ใช้ในขณะทำการแข่งขัน ซึ่งมีการกำหนดให้เพิ่มขนาดของ Blind ขึ้นเรื่อยๆ จึงส่งผลให้เกิดความกดดันต่อวิธีการเล่น และ กลยุทธ์ที่ใช้ ยกตัวอย่างเช่นการ กดดันเพื่อขโมย Blind , การทิ้งไพ่ที่แข็งแกร่งไปเพื่อลดความเสี่ยงเมื่อใกล้เข้าสู่ช่วงที่จะได้รับเงินรางวัล ฯลฯ ซึ่งไม่สามารถพบได้ในการเล่นโป๊กเกอร์เงินสด

ปรับกลยุทธ์ จาก โป๊กเกอร์เงินสด มาใช้ในการเล่น ทัวร์นาเมนต์

แม้ว่าคุณจะพบว่า มีกลยุทธ์บางอย่างที่สามารถนำมาใช้ร่วมกันได้ แต่การ เรียนรู้ที่จะใช้กลยุทธ์ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับการเล่น ในรูปแบบนั้นๆ จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จได้มากกว่าในระยะยาว หากคุณเป็นผู้เล่นโป๊กเกอร์ ในรูปแบบ โป๊กเกอร์เงินสด คุณอาจรู้สึกว่า การแข่งขันโป๊กเกอร์ในรูปแบบทัวร์นาเมนต์นั้นมีความยากมากกว่าในช่วงแรกๆ อย่างไรก็ตาม หลังจากได้ฝึกฝนกลยุทธ์การเล่นทัวร์นาเมนต์ในระยะเวลาหนึ่ง คุณจะเริ่มรู้สึกปรับตัวได้และสามารถนำ กลยุทธ์ในการเล่น โป๊กเกอร์เงินสด มาสร้างความได้เปรียบจากเทคนิคการเล่น Post-Flop ที่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการ แข่งขันโป๊กเกอร์ในรูปแบบทัวร์นาเมนต์

Blind ที่เพิ่มขึ้น ทำให้แผนการเล่นเปลี่ยน

ในการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ ขนาดของ Blind จะถูกปรับเพิ่มขึ้นตลอดเวลา ในระยะเวลาที่ผู้จัดการแข่งขันกำหนดโดยมีระบุไว้ตั้งแต่เริ่มต้นการแข่งขัน คุณจึงต้องคำนวณชิปที่คุณมีกับผู้เล่นคนอื่นที่เหลืออยู่ในการแข่งขันอยู่ตลอด รวมถึง การแข่งขันดำเนินมาถึงช่วงไหน? เช่น ช่วงแรก, ช่วงกลาง หรือ ช่วงท้ายของการแข่งขัน เนื่องจากเงื่อนไขที่ใช้ในการตัดสินใจจะเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทำให้คุณประเมินแผนการเล่นที่เหมาะสมในแต่ละมือได้อย่างถูกต้อง นี่จะเป็นตัวกำหนดผู้เล่นที่ชนะการแข่งขัน ให้แตกต่างจากผู้เล่นที่แพ้

การที่คุณต้องพบแรงกดดันเพิ่ม จากการเล่นในช่วง Bubble (ใกล้ที่จะเข้าถึงอันดับที่ได้รับการันตีเงินรางวัล) หรือ ความกดดันจากการเล่นบนโต๊ะในรอบสุดท้าย (Final Table) อาจทำให้คุณต้องเลือกเล่นอย่างระมัดระวังมากขึ้น เนื่องจากการตัดสินใจดังกล่าวส่งผลโดยตรงต่อเงินรางวัลของคุณ การยอมทิ้งไพ่ดีๆ เพื่อรักษาโอกาสที่จะได้อยู่ในการแข่งขันต่อไป เป็นทักษะที่ ผู้เล่นโป๊กเกอร์เงินสดไม่มี

เลือกไพ่เริ่มต้น

ในการเลือกไพ่เริ่มต้นของการเล่นโป๊กเกอร์เงินสดมักจะค่อนข้างกว้างและยืดหยุ่น โดยเน้นไปที่ผลตอบแทนมากกว่า เนื่องจากผู้เล่นสามารถเสี่ยงได้มากกว่า และ หากเขาพลาด เขาก็สามารถที่จะเติมเงิน(Re-buy) กลับเข้ามาเล่นใหม่ได้ตลอดเวลา ต่างการเล่นทัวร์นาเมนต์ที่จะเน้นไปที่ Range ในการเล่นตามตำแหน่ง แผนการเล่นที่แนะนำในช่วงแรกคือการเล่นอย่างรัดกุมเนื่องจากไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องเสี่ยงในช่วงต้นเกม และ ขยายเพิ่มขึ้นเมื่อการแข่งขันเริ่มเข้าสู่รอบลึกขึ้น การขโมย (Steal) Blind ในช่วงกลางถึงช่วงท้ายของทัวร์นาเมนต์เป็นอีกทักษะที่จำเป็นในการเอาชีวิตรอดจากขนาดที่เพิ่มขึ้นของ Blind อย่างต่อเนื่อง และ สังเกตแผนการเล่นของคู่ต่อสู้เพื่อใช้ให้เกิดประโยชน์ในอนาคต ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจ Shove All-in หากสังเกตได้ว่าคู่ต่อสู้มักจะนำไพ่กว้างกว่าปกติมาใช้เล่นเมื่อเขาอยู่ในตำแหน่ง Late Position บ่อยๆ

ใช้ขนาด Bet Size เล็ก

โดยปกติ Bet Size ที่ใช้ในเกมโป๊กเกอร์เงินสดโดยทั่วไปจะมีขนาดที่ใหญ่กว่าเกมโป๊กเกอร์แบบทัวร์นาเมนต์ เนื่องจากชิปของโป๊กเกอร์เงินสดนั้นไม่มีความเปลี่ยนแปลงใดๆ แตกต่างกับชิปชองโป๊กเกอร์แบบทัวร์นาเมนต์ที่จะถูกลดค่าลงตลอดเวลาจากขนาดของ Blind ที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในช่วงท้ายเกมที่ผู้เล่นส่วนใหญ่มักจะเหลือชิปน้อยกว่า 40bb การเดิมพันจึงเน้นไปที่รอบ Pre-Flop – Flop และต้อง All-in หลังจากนั้น ดังนั้นการใช้ขนาด Bet size ขนาดเล็ก ก็สามารถกดดันคู่ต่อสู้ได้ ไม่ว่าคุณจะ Bluff หรือ Value และมันคือความเสี่ยงที่น้อยลงสำหรับคุณ

ข้อดีและข้อเสีย ของ โป๊กเกอร์เงินสด เปรียบเทียบกับทัวร์นาเมนต์

เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่า โป๊กเกอร์ในรูปแบบใดเหมาะสมกับคุณมากกว่า เราได้รวบรวมข้อดีและข้อเสียที่สำคัญที่สุด ของแต่ละประเภทมาเปรียบเทียบให้คุณได้เห็นภาพดังนี้

• ข้อดีของโป๊กเกอร์เงินสด
  • เหมาะกับการนำกลยุทธ์มาใช้งาน – การเล่นโดยไร้ความกดดันจากขนาดของ Blind ที่เพิ่มขึ้น ทำให้คุณสามารถนำกลยุทธ์ต่างๆ มาใช้ในการเล่นได้อย่างไม่มีข้อจำกัด ยกตัวอย่างเช่น การเล่น Post-Flop ที่มีชิปมากๆ ในการเล่นอยู่ตลอด ทำให้คุณสามารถเลือกใช้กลยุทธ์ได้หลากหลายมาก
  • กำหนดขนาดเงินที่ต้องการเล่นได้อย่างสะดวก – คุณสามารถเลือกจำนวนที่จะ Buy-in หรือ ระดับของเกมที่ใช้เล่น ได้ตามความต้องการ
  • มีความยืดหยุ่นของเวลาที่ใช้เล่น – คุณสามารถกำหนดเวลาเล่น ระยะเวลาที่จะเล่น เวลาที่จะหยุดเล่น ได้ตามที่คุณต้องการข้อ
• เสียของโป๊กเกอร์เงินสด
  • ไม่มีเงินรางวัลมหาศาล – แม้ว่าคุณจะเป็นผู้เล่นอาชีพ หรือ มีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่โดยปกติแล้วคุณจะได้รับกำไรประมาณ 15-20 Buy-in เท่านั้น
  • โดยส่วนใหญ่จะมีค่าธรรมเนียม – รายได้จากชัยชนะของคุณ จะถูกแบ่งไปเป็นค่าธรรมเนียม ซึ่งคุณจำเป็นต้องเล่นให้มีกำไรเผื่อในส่วนนี้ด้วย
  • มีการเล่นที่น่าเบื่อจำเจในทุกๆ วัน – ในการเล่นโป๊กเกอร์เงินสด คุณจำเป็นที่จะต้องเล่นด้วยกลยุทธ์ที่แน่นอน เพื่อพยายามให้รายได้สูงกว่าค่าเฉลี่ยในทุกๆวัน เพื่อที่จะประสบความสำเร็จ ในขณะที่ผู้เล่นทัวร์นาเมนต์ นอกจากการเงินรางวัลที่สูงแล้ว การมีชื่อจารึกอยู่เป็นเกียรติว่าเป็นผู้ชนะในรายการแข่งขัน นั่นทำให้รู้สึกดีมากๆ แต่สำหรับผู้เล่นบางคนอาจจะคิดว่าฉันชอบที่จะทำแบบนี้ในทุกๆวันก็เป็นได้
• ข้อดีของโป๊กเกอร์ทัวร์นาเมนต์
  • เงินรางวัลสำหรับผู้ชนะมหาศาล – ผลตอบแทนจากการแข่งขันนั้นสูง เมื่อจบการแข่งขันหากคุณสามารถติด อันดับ 1 ใน 3 อาจทำให้คุณมีเงินสำหรับ เล่นไปได้อีกหลายสิบ-ร้อย ทัวร์นาเมนต์ ในการแข่งขันรายการใหญ่ๆ อาจมีเงินรางวัลหลายหมื่นดอลลาร์ กับระยะเวลาในการแข่งขันเพียง 2-5 วัน
  • ได้เล่นกับผู้เล่นที่มีประสบการณ์น้อย – การแข่งขันโป๊กเกอร์ทัวร์นาเมนต์มักจะดึงดูดผู้เล่นโป๊กเกอร์ ที่เล่นเพื่อการผ่อนคลาย หรือ สนุกสนาน เป็นจำนวนมากที่คิดว่าเกมนี้เป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นมากกว่าเป็นการลงทุนที่เป็นประโยชน์
  • การเล่นเกมที่มีเดิมพันสูงกับผู้เล่นที่อ่อนแอ – เนื่องจากความผันผวนของเกมในรูปแบบทัวร์นาเมนต์ นั้นมีค่อนข้างสูง จึงมีโอกาสที่ผู้เล่นที่อ่อนแอ สามารถผ่านเข้ารอบลึกๆมาได้ (จากการใช้ดวง)
• ข้อเสียของโป๊กเกอร์ทัวร์นาเมนต์
  • มีความผันผวนสูง – ในโป๊กเกอร์ทัวร์นาเมนต์ บางครั้งอาจมีความผันผวนสูงมาก และสำหรับบางคน อาจมากเกินกว่าที่จะรับมือได้ (ทั้งด้านการเงินและจิตวิทยา)
  • ขนาดของเงินทุน (Bankroll) ต้องมีขนาดมากกว่าปกติ – เมื่อเทียบกับโป๊กเกอร์เงินสด คุณอาจต้องเตรียมไว้มากกว่า 100 Buy-in คุณอาจไม่สามารถสร้างรายรับจากการติดอันดับที่มีเงินรางวัลได้เลยเป็นเดือนๆ ดังนั้นการเตรียมขนาดของเงินทุน (Bankroll) ให้มากกว่าปกติ จะทำให้คุณมีสมาธิกับการแข่งขันในทุกๆครั้งได้
  • ใช้เวลาในการแข่งขัน – การแข่งขันอาจใช้เวลานานหลายๆ ชั่วโมง (โดยที่คุณไม่สามารถไปทำกิจกรรมอย่างอื่นได้) หรือ อาจต้องแข่งขันหลายวัน (ในการแข่งขันรายการใหญ่ๆ) นอกจากนี้ คุณอาจจะต้องรู้สึกผิดหวังหากคุณเสียเวลาในการแข่งขันหลายชั่วโมงโดยที่ไม่ได้รางวัลใดๆเลย

และนี่คือทั้งหมดของบทความนี้ หวังว่าคุณจะสามารถทำความเข้าใจ และ เลือกได้ว่าคุณชอบแนวทางในการเล่นโป๊กเกอร์ในประเภทใด และหากคุณคิดจะลองเล่นโป๊กเกอร์ในรูปแบบทัวร์นาเมนต์ เทคนิคในการปรับกลยุทธ์ในบทความนี้คงจะช่วยให้คุณสามารถนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพได้