Check ที่ Flop เมื่อคุณติด Top-Pair ในสถานการณ์ใดบ้าง

Check ที่ Flop เมื่อคุณติด Top-Pair ในสถานการณ์ใดบ้าง

หากคุณเป็นผู้เล่นที่มักจะ C-Bet (Continuation Bet) ทุกครั้งที่คุณติด Top-Pair ในการเล่นที่ Flop คุณก็จะกลายเป็นผู้เล่นที่สามารถอ่านได้ง่าย นั่นหมายความว่า คุณก็มีโอกาสที่จะถูกเล่นงานได้ง่ายด้วยเช่นเดียวกัน
ผู้เล่นที่มีความเชี่ยวชาญ หรือ มีประสบการณ์ในการเล่นโป๊กเกอร์ เข้าใจได้ดีว่า มีสถานการณ์ในการเล่นที่คุณจะต้อง Check บ้างเมื่อคุณติด Top-Pair เพื่อปกป้อง Range ที่คุณเล่นด้วยการ Check ของคุณ ซึ่งเราได้นำตัวอย่างของสถานการณ์ดังกล่าวมาศึกษากันในบทความนี้

ซึ่งครอบคลุมในหัวข้อ

พร้อมที่จะเรียนรู้ไปพร้อมๆกันหรือยัง ? ถ้าพร้อมแล้วเรามาลุยไปด้วยกันเลย

การเล่นในรูปแบบ Single-Raise Pot และ ขนาดที่ใช้ (Bet Sizing)

สถานการณ์ส่วนใหญ่ที่คุณควรเลือกที่จะ Check เมื่อคุณติด Top-Pair ในบางครั้งนั่นก็คือการเล่นในรูปแบบ Single-Raise Pot
ซึ่งในการเล่นรูปแบบ Single-Raise Pot นั้น อัตราส่วนระหว่าง ชิปหน้าตัก กับ ขนาดของ ชิปกองกลาง ที่เรามีชื่อเรียกโดยเฉพาะ ว่า Stack-to-Pot Ratio (SPR) นั้นสูงเกินว่าที่คุณจะสามารถทำกำไร หรือ Value ด้วยความรู้สึกปลอดภัยทั้ง 3 Street หรือ รอบการเล่น ที่ Flop,Turn และ River ได้ ดังนั้น คุณควรพิจารณาว่าแผนใดแผนหนึ่งใน 3 แผนการเล่นต่อไปนี้ที่สมเหตุสมผลที่สุดกับไพ่ Top-Pair ของคุณ
1. Bet ทั้ง 3 รอบ (Flop,Turn,River) เพื่อมูลค่าสูงสุด (Value)
2. C-bet ที่ Flop และ Turn (ที่เรียกว่า Double Barrel) และ เลือกที่จะ Check ที่ River
3. เลือก Check ที่ Flop ,C-bet ในการเล่นที่ Turn (ที่เรียกว่า Delay C-Bet) และ C-Bet อีกครั้งที่ River

มาเจาะลึกถึงแผนการเล่นทั้งหมดกัน

การเล่นที่มีความได้เปรียบตำแหน่ง (Button vs Big-Blind)

ในตัวอย่างที่เรานำมาใช้ในการศึกษาถึงการเล่นในสองตัวอย่างแรกครอบคลุมการเล่นในตำแหน่ง Button (ที่เป็นฝ่าย Open-Raise ในรอบ Pre-Flop) กับคู่ต่อสู้ที่ตำแหน่ง Big-Blind (ที่เป็นฝ่าย Call ) โดยเราลองจำลองการเล่นโดยใช้ Solver ช่วยคำนวณในการหาคำตอบจาก 2 เราได้จำลองตัวอย่างจากสองสถานการณ์ ดังนี้
1. Top-Pair ใดบ้างที่ โปรแกรม Solver แนะนำให้เลือก Check ?
2. มีความถี่มากน้อยเพียงใดที่ โปรแกรม Solver เลือกที่จะ Check ?

IP ตัวอย่างที่ #1: A♥ T♦ 9♠

เราจะเห็นได้ว่า Solver แนะนำให้ใช้ขนาด Bet-Size ที่ขนาด 75% ของขนาด Pot และ ภาพด้านล่างที่แสดงให้เห็นแผนการเล่นทั้งหมด ที่ Top-Pair ควรเลือกเล่น

IP ตัวอย่างที่ #1: A♥ T♦ 9♠

จากภาพเราจะพบว่า Solver เลือกที่จะ C-Bet ไพ่ในกลุ่ม Top-Pair ที่มี Kicker ที่แข็งแกร่งที่สุด เช่น AK-AJ และเลือกที่จะ C-Bet Top-Pair ทั้งหมด 57 Combo จากทั้งหมด 102 Combo ด้วยความถี่อยู่ที่ราวๆ 33-55%
เราได้เห็นแนวทางการเล่นที่ Solver แนะนำแล้ว มาพูดถึงวิธีการเล่น Top-Pair ที่ Flop A-T-9 ในทางปฏิบัติจริงๆ กัน เนื่องจากเราไม่สามารถจดจำได้ว่า ควรจะสุ่มความถี่ให้ได้ใกล้เคียงกับค่าที่ Solver แนะนำได้อย่างไร ซึ่งมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เราจึงขอแนะนำให้คุณแบ่ง Top-Pair ใน Range ออกเป็น 2 กลุ่ม เท่าๆ กันซึ่งจะทำให้ได้ค่าใกล้เคียงและสามารถนำไปใช้ในการเล่นจริงๆ ได้ นั่นก็คือ เลือกระหว่าง
1. เลือก C-bet เฉพาะไพ่ที่มี Kicker ที่ดีที่สุด 5 อันดับลงมา ซึ่งก็คือ AK ลงมาจนถึง A7 (60 combo)
2. เลือก C-bet เฉพาะไพ่ที่มี  Kicker ที่ดีที่สุด 3 อันดับลงมา และ Top-Pair ที่มี Kicker ที่ต่ำที่สุด แต่มี Backdoor-Flush (50 combo)
ซึ่งแนวคิดนี้เกิดมาจากการที่ต้องการหาวิธีที่จะสามารถจดจำได้ง่ายและใกล้เคียงกับค่าที่ Solver แนะนำได้มากที่สุดนั่นเอง

IP ตัวอย่างที่ #2 : T♠ 8♥ 6♦

ในตัวอย่างนี้เราพบว่า ไพ่ Top-Pair ของเรามีความเสี่ยงมากกว่าตัวอย่างที่ผ่านมา (เนื่องจาก คู่สิบ เป็นไพ่่กลางๆ ที่มีโอกาสถูกแซงได้) เราจึงควรคาดเดาว่าจะเห็นโซลเวอร์ C-Bet ด้วย Top-Pair บ่อยมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีไพ่ใน Range ของคู่ต่อสู้ที่ยังมี Equity พอที่จะ Call การ Bet ของเราได้ เรามาดูกันว่าสิ่งที่เราคาดเดาจะถูกต้องหรือไม่

เช่นเดียวกับตัวอย่างก่อนหน้านี้ โซลเวอร์แนะนำที่จะใช้ขนาด ในการ C-Bet ที่ขนาดใหญ่ (75% ของ Pot) และนี่คือวิธีการเล่นที่ Solver แนะนำในการเล่น Top-Pair ในตัวอย่างนี้

IP ตัวอย่างที่ #2 : T♠ 8♥ 6♦

เราพบว่า Solver เลือกที่จะวางเดิมพันด้วยการ C-Bet ที่ความถี่ที่สูงกว่ามาก เนื่องจาก Solver มองเห็นความจำเป็นในการพยายามทำกำไรให้ได้มาที่สุดจากไพ่ที่แย่กว่าของคู่ต่อสู้ที่เลือกที่จะ Call ด้วยไพ่ทั้งหมด 45.4 Combo จาก 63 Combo นั่นเท่ากับประมาณ 72% ของ Top-Pair ทั้งหมด ยกเว้นเพียง QTo และ JTo ซึ่งเราคาดเดาได้แค่ว่าทำไม Solver จึงเช็คด้วย QTo/JTo มากกว่า ก็เพราะเมื่อไพ่ที่เปิดขึ้นที่ Turn ทำให้ติด 2 Pair เช่น Q หรือ J ที่อาจทำให้คู่ต่อสู้มีลุ้นต่อได้ เช่น J9,Q9 ซึ่งน่าสนใจมากเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม QTs/JTs กลับเลือกที่จะ Bet มากขึ้นกว่า Off-Suite เนื่องจากสามารถทำกำไรได้มาขึ้นหากสามารถติด Flush ได้จาก Back-Door

เช่นเดียวกับตัวอย่างที่ผ่านมา มีสองสามวิธีในการสร้างกลยุทธ์ของคุณให้ใกล้เคียงกับ Solver ได้มากที่สุด ด้วยการสุ่มการเล่น Top-Pair ของคุณทั้งหมดตามที่ Solver แนะนำ หรือ เลือก Bet Top-Pair ทั้งหมดด้วยไพ่ที่มีสีเดียวกัน และ Check QTo/JTo/T9o เพียงครึ่งเดียวหรือคุณสามารถใช้แนวคิดของคุณเองได้ ประเด็นหลักคือการนำความถี่ที่ถูกต้องมาใช้ นั่นก็คือ 72% ของไพ่ใน Range ทั้งหมดของคุณ

เราเริ่มเรียนรู้การเล่นเมื่อมีการเล่นในตำแหน่งที่เสียเปรียบต่อกันดีกว่า

การเล่นในตำแหน่งที่เสียเปรียบ

การมีตำแหน่งการเล่นที่เสียเปรียบในฐานะ ผู้เล่นที่เป็นฝ่าย Aggressive ในรอบ Pre-Flop นั้นเป็นการเล่นที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง ด้วยความ ซับซ้อนที่มีมากกว่ามาก เนื่องจากคุณต้องรวมการ Check-Raise ไว้ในกลยุทธ์ของคุณด้วย (เพื่อปกป้อง Range ที่เลือกเล่นด้วยการ Check ของคุณ)

ตัวอย่างต่อไปนี้ในแต่ละตัวอย่างครอบคลุมสถานการณ์ทั่วไปที่คุณจะพบว่าตัวเองอยู่ในตำแหน่งการเล่นที่เสียเปรียบในฐานะผู้เล่นที่เป็นฝ่าย Raise ในการเล่น รอบ Pre-Flop

OOP ตัวอย่างที่ #1 T♠ 7♥ 5♦

การเล่นในรอบ Pre-Flop : คุณอยู่ที่ตำแหน่ง Hi-Jack เลือกที่จะ Open-Raise และ คู่ต่อสู้ที่ตำแหน่ง Button เลือก Call

แม้ว่าคุณจะมี Range ที่ได้เปรียบจากการเล่นในรอบ Pre-Flop แต่คู่ต่อสู้ที่ Call เข้ามาเล่นบนบอร์ดนี้ ก็สามารถมีไพ่ที่แข็งแกร่งมากๆ อยู่สูงมากด้วยเช่นเดียวกัน ทั้งหมดนี้ เมื่อรวมกับข้อเสียเปรียบตำแหน่งในการเล่นของคุณ หมายความว่าคุณควรเลือกเล่นด้วยกลยุทธ์ที่เน้นไปที่การตั้งรับมากขึ้น มันหมายถึงการเลือกที่จะ Chek ด้วยไพ่ Top-Pair ของคุณเป็นจำนวนมากเพื่อปกป้องไพ่ใน Range ทั้งหมดของคุณ

OOP ตัวอย่างที่ #1 T♠ 7♥ 5♦

Solver ได้ให้คำแนะนำว่าควรเลือกขนาดเดิมพัน (Bet-Size) ที่ดีที่สุดที่ขนาด 33% ของ Pot การเลือกขนาดเดิมพันเล็ก ๆ นี้จะสมเหตุสมผลเมื่อคุณเสียเปรียบตำแหน่งในการเล่นและความได้เปรียบจาก Nut-Advantage บนบอร์ดนี้ที่มีน้อยกว่าคู่ต่อสู้ ด้วยอัตราส่วนของขนาด SPR ที่สูง คุณจึงต้องพยายามรักษาขนาดของ Pot ให้เล็กที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ และยังช่วยให้คู่ต่อสู้เปิดเผยความแข็งแกร่งของไพ่ของเขาด้วยหากเขาเลือกที่จะ Raise

จากภาพคุณจะเห็นได้ว่า Solver เลือกคงรูปแบบของการเดิมพัน C-Bet ให้กับ Top-Pair ที่มี Kicker ที่แข็งแกร่งบ่อยขึ้น แต่ก็ใกล้เคียงกับการเล่นเมื่อมีความได้เปรียบตำแหน่งมาก ไม่มีไพ่ใดของ Top-Pair ที่มีความถี่มากกว่า 67% และส่วนใหญ่จะใกล้เคียง 50% ซึ่งโดยรวมแล้วจะอยู่ที่  13.6 Combo จาก 24 Combo ซึ่งคิดเป็นเปอร์เซ็นต์อยู่ที่ราวๆ 56%

อีกครั้ง มีหลายวิธีที่จะช่วยให้คุณสามารถเล่นได้ด้วยความถี่ที่ใกล้เคียงกับที่ Solver แนะนำ หนึ่งในนั้นก็คือการเลือกใช้โปรแกรมช่วยสุ่ม หรือเลือก วิธีที่ง่ายกว่านั้นคือการ C-Bet เฉพาะเมื่อคุณมี Top-Kicker (12 Combo) ซึ่งใกล้เคียงกับ 13.6% ที่โปรแกรมแนะนำ

คุณสามารถเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งไปใช้ได้!

OOP ตัวอย่างที่ #2 T♠ 8♥ 6♦

การเล่นในรอบ Pre-Flop : คุณ Open-Raise จากตำแหน่ง Small-Blind และ คู่ต่อสู้จากตำแหน่ง Big-Blind เลือก Call

OOP ตัวอย่างที่ #2 T♠ 8♥ 6♦

จากภาพ คุณจะเห็นได้ว่า Solver แนะนำให้ C-Bet ด้วยไพ่ Top-Pair ด้วยเปอร์เซ็นต์ที่สูงมาก แม้ว่าจะมีความเสียเปรียบตำแหน่งในการเล่นก็ตาม การพยายามสร้างกำไรโดยทันทีจากไพ่ที่อ่อนแอกว่า และ ปกป้องไม่ให้คู่ต่อสู้ Check-Back เพื่อเข้าไปติดไพ่ที่ดีกว่าคุณ มีความสำคัญเป็นอย่างมาก

รูปแบบในการเล่นจะเหมือนกับตัวอย่างการเล่นเมื่อมีความได้เปรียบตำแหน่ง: ยิ่งคุณมี Kicker ที่แข็งแกร่งขึ้น การเดิมพันก็จะยิ่งบ่อยขึ้น และการมี Back-Door-Flush Draw เพิ่มขึ้นจะเพิ่มความถี่ในการเดิมพันด้วย ซึ่งคุณจะเห็นความแตกต่างได้โดยการเปรียบเทียบไพ่ระหว่างไพ่ที่มีสีเดียวกัน (Suited-Hand) กับไพ่ที่มีสีแตกต่างกัน (Off-Suited-Hand) เช่น T9s เดิมพันบ่อยกว่า T9o)

และแน่นอน คุณต้องการค้นหารูปแบบบางอย่างที่จะช่วยให้เข้าถึงเกณฑ์ความถี่ที่ Solver แนะนำ เช่น คุณจะสุ่มการเล่นไพ่ทุกตัวและพยายามจำความถี่โดยประมาณจาก Solver หรือคุณจะ C-Bet ด้วยไพ่ Top-Pair ที่แข็งแกร่งที่สุด 2 ใบ (AT/KT) และ Top-Pair ที่มี Backdoor-Flush Draw รวมอยู่ด้วยก็ได้

บางทีคุณอาจคิดวิธีอื่นได้ด้วยตัวคุณเอง ซึ่งมีหลายวิธีที่ใช้ได้ผล!

สรุปบทความ

ในบทความนี้ที่คุณได้เรียนรู้ ที่จะตัดสินใจได้ว่า คุณจะเล่น Top-Pair ในการเล่นที่ Flop อย่างไร พยายามใช้แนวคิดทั่วไปที่คุณได้เรียนรู้มาเพื่อสร้างกลยุทธ์ของคุณ ด้วยการ C-Bet และ Check ด้วยความถี่ที่เหมาะสม หากคุณทำได้ คุณจะก้าวล้ำหน้าไปไกลเมื่อคุณติด Top-Pair ซึ่งแตกต่างจากคู่ต่อสู้

เราหวังว่าคุณจะสนุกกับบทความนี้ และ สามารถช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการเล่น เช่นเคย โปรดแสดงความคิดเห็นหรือส่งคำติชม เพื่อให้เราได้ปรับปรุงบทความให้ดีมากยิ่งขึ้น

ขอให้คุณประสบความสำเร็จในการเล่นโป๊กเกอร์ ที่ N8