เรียนรู้วิธีการเล่นไพ่ Flush : เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ
ในบทความนี้ เราจะเรียนรู้เจาะลึกลง ถึงวิธีการเล่นไพ่ Poker ที่มีลักษณะเฉพาะตัวชนิดหนึ่ง นั่นก็คือ Flush (ไพ่ที่มีสี,ดอก เดียวกัน)
แน่นอน Flush เป็นไพ่ที่มีความแข็งแกร่ง คุณอาจประเมินค่าของมันสูงเกินความเป็นจริง! หรือ อาจประเมินค่าไพ่ที่สามารถลุ้นติด Flush ได้ในการเล่นของคุณต่ำกว่าความเป็นจริง! ทั้งหมดนี้เราได้คำแนะนำที่มีมาแบ่งปัน รวมถึงเคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จ และ สามารถนำไปใช้ในการปรับแผนการเล่นของคุณให้ถูกต้องได้อีกด้วย
ความหมายของ Flush ในการเล่นโป๊กเกอร์?
ก่อนที่เราจะเรียนรู้ถึงแผนการเล่น หรือ กลยุทธ์ที่ควรใช้ในการเล่่น Flush Draw เรามาทำความรู้จักไพ่ในประเภทนี้กันตั้งแต่พื้นฐาน หากคุณเป็นผู้เล่นที่มีประสบการณ์และมีความรู้ในพื้นฐานตรงนี้แล้ว คุณสามารถข้ามหัวข้อนี้ไปยังหัวข้อถัดไปได้
Flush ในการเล่นโป๊กเกอร์ หมายถึงกลุ่มไพ่ที่ประกอบด้วยไพ่ทั้งหมด 5 ใบขึ้นไปที่มี สี,ดอก เดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น A♦K♦9♦6♦2♦ ที่มีสีเดียวกันทั้งหมด และถือว่าเป็น Flush ที่มีไพ่ A ใหญ่ที่สุด
ในกรณีที่มีผู้เล่นมากกว่าหนึ่งคนถือไพ่ที่มีสีเดียวกันเหมือนกัน เราจะดูไพ่ของฝ่ายที่มีค่าสูงที่สุดเป็นผู้ชนะ ยกตัวอย่างเช่น Q♦J♦9♦6♦2♦ ผู้เล่นที่มี Flush ในตัวอย่างแรกชนะ จากไพ่ A ที่มีค่าสูงที่สุด โดยมี K เป็นไพ่ที่เรียกว่า Kicker ใช้ในกรณีที่ทั้งสองฝ่ายมีไพ่ที่ค่าสูงสุดเท่ากัน เราจะตัดสินกันด้วย Kicker (ไพ่ของผู้เล่นที่สอง มี Q ที่มีค่าสูงสุด โดยมี J เป็น Kicker) ในกรณีที่ทั้งคู่มีไพ่มีเหมือนกัน เราใช้ วิธีแบ่งเงินเล่นโป๊กเกอร์ ให้ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายเท่าๆ กัน
Flush มีความแข็งแกร่งมากขนาดไหน?
หากเราได้ศึกษาถึงอันดับในการในการแข่งขันโป๊กเกอร์ เราจะพบว่า ไพ่ที่ติด Flush นั้นค่อนข้างแข็งแกร่งมากเลยทีเดียว ในการแข่งขันโป๊กเกอร์ที่มีมาตรฐานทั่วไป Flush มีอันดับความแข็งแกร่งเป็นอันดับ 5 ดังภาพ สามารถ เอาชนะ Straight(6),Three of a Kind(7),2 Pair(8) ,Pair(9) ,High Card(10) ดังตัวอย่างที่แสดงอันดับในภาพด้านล่าง
ความแข็งแกร่งของ Flush ขึ้นอยู่กับประเภท และ กติกา ของเกมโป๊กเกอร์ที่คุณเล่นนั้นๆ ซึ่งบทความนี้เราจะมุ่งทำความเข้าใจเฉพาะในการแข่งขันโป๊กเกอร์ในรูปแบบ Texas Hold’em Poker เท่านั้น
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ Flush ในการเล่นโป๊กเกอร์?
เหตุผลอีกประการที่ทำให้ Flush มีความแข็งแกร่งมาก นั่นก็คือ มันไม่ได้เกิดขึ้นได้บ่อยครั้ง เริ่มจากไพ่ทั้งหมด 52 ใบ สามารถทำให้เกิด Flush ได้ถึง 5,108 รูปแบบ และโอกาสจะเกิดขึ้นจากไพ่ที่แตกต่างกันถึง 2,598,960 ใบจากทั้งหมดสำรับ จากตัวเลขดังกล่าวทำให้เราสามารถคำนวณหาความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นจากการนำ 5,108 หารด้วย 2,598,960 จะได้ผลลัพธ์ ที่ 0.1965% หรือที่ราวๆ ทุกๆการเล่น 509 รอบ
แม้ว่าคุณจะได้รับแจกไพ่ที่มีสีเดียวกันตั้งแต่เริ่มต้น โอกาสที่คุณจะสามารถติด Flush นั้นจะเพิ่มขึ้นเป็น 0.82% แต่สำหรับความเป็นไปได้ที่คุณจะมีโอกาสลุ้น Flush เมื่อ Flop เปิดออกมา นั้นอยู่ที่ราวๆ 10.90%
Flush จึงเป็นอะไรที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ และมีความแข็งแกร่งมากขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในขณะนั้นประกอบด้วย
แผนการเล่น Flush Draw ที่ถูกต้อง
เมื่อเราพิจารณาถึงแผนการเล่น Flush Draw ที่ถูกต้องนั้นขึ้นอยู่กับ สถานการณ์ และ ตัวแปรหลายอย่างประกอบกัน เช่น ขนาดของชิปที่ผู้เล่นมีเหลืออยู่ในการเล่น (ทั้งหมดของทุกฝ่าย), แผนการเล่นของคู่ต่อสู้ ,ตำแหน่งในการเล่นของคุณ ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม เราขอเสนอแนวทาง และ แผนการเล่นที่สามารถทำความเข้าใจได้ง่าย รวมถึงเคล็ดลับที่สามารถช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการนำไปใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์จริงได้
#1 ประเมินความแข็งแกร่งของไพ่ Suite ที่แย่ๆ สูงเกินความเป็นจริง
การประเมินความแข็งแกร่งของไพ่ Suite ของคุณสูงเกินความเป็นจริงนั้นเป็นความผิดพลาดที่สามารถเกิดขึ้นได้บ่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณเริ่มเล่นโป๊กเกอร์ใหม่ๆ จนมีคำพูดติดตลกที่คอยล้อเลียนผู้เล่นใหม่เหล่านี้ว่า “แต่นี้เป็นไพ่ที่มีสีเดียวกันเชียวนะ” ซึ่งก็เป็นความจริงที่ผู้เล่นเหล่านี้มักจะนำไพ่ที่มีสีเดียวกันมาเล่นโดยไม่สนว่ามันจะแข็งแกร่งหรือไม่ และ พร้อมที่จะทุ่มสุดตัวเพื่อให้สำเร็จแม้ว่ามันจะเป็น Flush ที่ไม่มีความแข็งแกร่งเลยก็ตาม
ความจริงสำหรับ Poker ในรูปแบบ NLH ก็คือ ผู้เล่นทุกคนสามารถใช้ประโยชน์จากไพ่ที่เปิดขึ้นบนบอร์ดได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่ไพ่บนบอร์ดเปิดออกมามีสีเดียวกัน 3 ใบขึ้นไป (โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมี 4 ใบ) ก็มีความเป็นไปได้ที่คู่ต่อสู้ของคุณจะมีโอกาสมีไพ่ที่มีสีเดียวได้เช่นเดียวกัน
เมื่อใดก็ตามที่คุณสามารถมีลุ้น Flush (Draw) หรือ ในความเป็นจริงก็คือการลุ้นที่จะติดอะไรบ้างอย่างก็ตาม คุณควรคำนึงถึงความแข็งแกร่งของไพ่ที่คุณถืออยู่ด้วย คุณคงไม่ต้องการติด Flush ในขณะที่คู่ต่อสู้ของคุณก็ติดด้วยเช่นเดียวกันและชนะคุณด้วย ไพ่ที่ดีกว่าหรือแข็งแกร่งกว่าคุณ
แน่นอนว่ามันมีข้อยกเว้น ในกรณีที่มีผู้เล่นก่อนหน้าคุณมากกว่า 1 คน เล่นด้วยการ Limp และเหลือผู้เล่นต่อจากคุณเพียงไม่กี่คน อาจมีความคุ้มค่าพอที่จะทำให้คุณพิจารณานำไพ่ Suite Connect อย่างเช่น 98 ไปเล่นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณอยู่ที่่ตำแหน่ง Big-blind แต่โดยทั่วไป ไพ่แย่ๆ ก็ยังคงเป็นไพ่แย่ๆ และไม่ควร ประเมินค่าของมันสูงกว่าความเป็นจริง
#2 พิจารณาวางแผนการเล่นด้วย Pot Odds
เมื่อใดก็ตามที่คุณคิดว่าจะลองลุ้นเพื่อเข้าไปติด Flush ให้คุณลองพิจารณาถึงความคุ้มค่าในการเล่นด้วย Pot Odds เช่นเดียวกับการ Pot Odds มาใช้ในการตัดสินใจ Call ทั่วไป การวางเดิมพัน (Bet) ด้วย Pot odds ที่ไม่คุ้มค่า จะทำให้คุณขาดทุนได้ในระยะยาว แม้ว่าคุณจะสามารถชนะในการเล่นครั้งนี้ ผลตอบแทนที่ได้รับก็มักจะไม่คุ้มค่า
ในกรณีที่คุณ มี Flush draw ในขณะที่เหลือไพ่ทั้งหมด 47 ใบที่ยังไม่ถูกเปิด และมี 9 ใบ ที่เป็นไพ่ที่ทำให้คุณติด Flush ได้ ซึ่งเท่ากับ 9 ใน 47 หรือคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ที่ประมาณ 19.15% นั่นหมายความว่า โอกาสที่จะเกิดขึ้น 1 ครั้งจากทั้งหมด 5 ครั้ง ดังนั้นความเสี่ยงที่คุณจะลองอย่างน้อยที่สุดก็คือ 4 ต่อ 1
อย่างไรก็ตาม คุณควรนำตัวแปรอื่นที่สามารถนำมาใช้ในการคำนวณผลตอบแทนที่คุ้มค่าได้จาก implied odds จากการเล่นของคุณและคู่ต่อสู้ที่ยังมีชิปสำหรับเล่นเป็นจำนวนมาก และ คุณคาดหวังว่าคุณจะติดเพื่อชนะคู่ต่อสู้และสามารถทำกำไรเพิ่มเติมในส่วนนี้ที่คู่ต่อสู้พร้อมจะจ่ายให้กับคุณได้ แต่ implied odds นั้นสามารถนำมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพกับคู่ต่อสู้ที่แย่ๆ หรือ มักจะเล่นอย่างดุดัน และเขาต้องมีไพ่ที่ดีด้วยเช่นเดียวกัน เท่านั้น ที่จะทำให้โอกาสประสบความสำเร็จเพิ่มมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ในกรณีที่คู่ต่อสู้ติด Straight หรือ Three of a kind
#3 Raise ไพ่ที่เป็น Flush Draws บ่อยครั้งเกินไป
ความผิดพลาดอีกประการหนึ่งที่สามารถพบได้บ่อยนั้นก็คือ ประเมินค่าของ Flush Draw ที่ถืออยู่สูงกว่าความเป็นจริง ซึ่งคุณควรผสมผสานการเล่นจากไพ่ในกลุ่ม Bluff ด้วย Flush Draw ในการเล่นที่ Flop บ้างเป็นบางครั้ง ซึ่งปัญหาที่รบกวนคุณก็คือการที่คู่ต่อสู้ Raise กลับมาทำให้คุณตัดสินใจเล่นต่ออย่างยากลำบาก
ซึ่งวิธีการรับมือไม่ยาก โดยเราจะแบ่งกลุ่มของ Flush Draw ออกเป็นสองประเภท 1. กลุ่มที่มีความแข็งแกร่ง 2. กลุ่มที่อ่อนแอ
Nut Flush Draw , King Hight Draw รวมถึงไพ่ที่คุณถือนั่นมีค่ามากกว่าไพ่ที่เปิดขึ้นบนบอร์ด ทั้งหมดนี้จัดอยู่ในกลุ่มที่มีความแข็งแกร่ง นอกนั้นจัดอยู่ในกลุ่มที่อ่อนแอทั้งหมด โดยให้คุณเลือกนำไพ่ในกลุ่มที่มีความแข็งแกร่งไปเล่น เมื่อต้องเจอกับปัญหาดังกล่าว คุณจะสามารถมั่นใจได้ว่าเมื่อคุณตัดสินใจเล่นต่อ และ เมื่อประสบความสำเร็จ สามารถติดไพ่ที่คุณคาดหวัง ไพ่ของคุณจะมีความแข็งแกร่งเหนือคู่ต่อสู้ของคุณ
#4 ไพ่ Draw ที่อ่อนแอ สามารถนำมาใช้ Bluff ได้ดี
เมื่อคุณลุ้นจนถึงการเล่นที่ River โดยที่คุณไม่ติดอะไร คุณอาจพิจารณาใช้แผนการ ลักไก่มาใช้เพื่อเอาชนะคู่ต่อสู้เนื่องจากไม่มี Showdown เมื่อพิจารณาไพ่ในมือของคุณที่มีกับ Range ของคู่ต่อสู้ จะเห็นได้ว่า ไพ่ Draw ที่อ่อนแอจะช่วยให้ประสบความสำเร็จได้มากกว่าไพ่ Draw ที่แข็งแกร่ง เนื่องจากการไพ่ของคุณเปิดโอกาสให้คู่ต่อสู้มีไพ่ในกลุ่มที่จะยอมหมอบให้กับคุณได้ (Un Block)
เช่นเดียวกัน ไพ่ Draw ที่แข็งแกร่งของคุณที่ประกอบไปด้วย ไพ่ A หรือ K ที่คุณถือแล้วไม่ติด Flush ยังคงพอมี Showdown และ ไม่ควร Raise เนื่องจากหากถูก Re-Raise กลับมาทางเลือกเดียวที่คุณสามารถทำได้ก็คือต้องโยนไพ่ในมือคุณทิ้งไป
#5 Flush Draw สามารถนำใช้ Probe Bets ได้ดี
เมื่อการเล่นในรอบ Pre-Flop คุณเป็นฝ่าย Call และการเล่นที่ Flop โดยมาตรฐานคุณจะเป็นฝ่าย Check ให้คู่ต่อสู้ C-Bet แต่คู่ต่อสู้เลือกที่จะ Check-Back สิ่งที่คุณควรทำโดยไม่ต้องคิดให้ซับซ้อนก็คือการ Probe Bet ออกไปในเกือบจะทุกๆการเล่นแน่นอนว่าหากเขามีไพ่ที่ยังไม่ติดอะไรเขาจะหมอบให้กับการเล่นของคุณ และหากเขาสามารถ Call ได้คุณก็ยังมีโอกาสติดไพ่ที่มีความแข็งแกร่งจากไพ่ Flush Draw ของคุณนอกจากนั้นคุณยังกลับเป็นฝ่ายควบคุมการเล่นและขนาดของเงินเดิมพันจากการเล่นนี้อีกด้วย
คู่มือการใช้งาน Flush พร้อมบทสรุป
Flush เป็นไพ่โป๊กเกอร์ที่มีความแข็งแกร่งมาก แต่ผู้เล่นใหม่ มักจะนำไพ่ Flush ที่มีความอ่อนแอไปเล่น และ มักจะประเมินความแข็งแกร่งของไพ่ในกลุ่มนี้สูงเกินความเป็นจริงในการเล่นของเขา ในขณะเดียวกัน Flush Draw ถือเป็นไพ่ที่มีความแข็งแกร่งด้วยเช่นเดียวกัน แต่ด้วยเหตุผลบางประการที่ทำให้ผู้เล่นหลายคนมักจะเล่นไม่ดุดันเพียงพอ เริ่มแก้ไขจุดอ่อนทั้งสองจุดนี้ในเกมโป๊กเกอร์ของคุณ รวมถึงปฏิบัติตามเคล็ดลับอื่นๆที่แนะนำ จะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน