ทำไมต้องใช้การลักไก่ ด้วยการ Check-Raise?

มีเหตุผลสำคัญๆ หลายประการ ว่าทำไมคุณถึงควรลองนำกลยุทธ์ Check-Raise ไปใช้ในการลักไก่ของคุณในการเล่นที่ Flop ซึ่งหนึ่งในเหตุผลที่สำคัญที่สุดก็คือ คุณ Open-Raise จากตำแหน่ง Early Position และคู่ต่อสู้ของคุณ Call ดังนั้น ในการเล่นรอบต่อไปคุณจะต้องเสียเปรียบตำแหน่งในการเล่นในทุกๆรอบ Post-Flop 

ในความเป็นจริงที่ผู้เล่นส่วนใหญ่มักเลือกที่จะ C-Bet (Continuation Bet) โดยอัตโนมัติด้วยความรู้สึกว่าเป็นการเล่นดีที่สุด และ Check น้อยกว่าความเป็นจริง ดังนั้น คู่ต่อสู้ของคุณก็คาดเดาแผนการเล่นด้วยการ C-bet ของคุณไว้แล้วเช่นกัน แต่! คู่ต่อสู้มี Range ไพ่ที่นำมาใช้ Call คุณในรอบ Pre-Flop เป็นอย่างไร ? มีรูปแบบเหมือนกับคุณหรือไม่? ในเมื่อคุณเสียเปรียบตำแหน่งในการเล่น ดังนั้น นี่เป็นโอกาสอันดีที่คุณควรเลือกที่จะ ควบคุมไม่ให้ขนาดของชิปกองกลาง (Pot) ใหญ่จนเกินไปด้วยการเลือก Check แต่ เรามีกลยุทธ์ที่ทรงพลังในสถานการณ์นี้คือ Check-Raise

Check-Raise สามารถนำมาใช้เป็นกลยุทธ์ที่ทรงคุณค่าในการป้องกัน Range ที่ใช้สำหรับการ Check ของคุณได้เช่นเดียวกัน การเปลี่ยนจากการ Raise ด้วยการเลือก Check เพิ่มมากขึ้นจากการเล่นปกติ นั้นทำให้คู่ต่อสู้ไม่สามารถคาดเดาแผนการเล่นของคุณได้ และเปิดโอกาสให้คุณสามารถนำกลยุทธ์ Check-Raise มาใช้ได้อีกด้วย

วิธีการเล่นที่ Turn หลังจากที่คุณเลือกที่จะ Check-Raise ที่ Flop

เมื่อคุณพิจารณานำกลยุทธ์ Check-Raise มาใช้เล่นที่ Flop ด้วยการลักไก่เพื่อ Balance ไม่ให้คู่ต่อสู้จับทางได้ โดยมีจุดประสงค์หลักก็คือ ต้องการให้คู่ต่อสู้หมอบไพ่ของเขาทิ้งไป แต่ หากสถานการณ์ไม่เป็นเช่นนั้น คู่ต่อสู้ของคุณเลือกที่จะ Call ! แผนการเล่นที่ Turn จึงยุ่งยากมากขึ้นเมื่อไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร? และนี่คือ ปัจจัยที่คุณควรนำมาพิจารณา

พิจารณา Range ที่คุณสามารถมีได้

Range ที่คุณใช้สำหรับ Check-Raise ที่ Flop เป็นอย่างไร ? เนื่องจากคุณต้องทำให้คู่ต่อสู้ของคุณเชื่อในสิ่งที่คุณกำลังจะบอก มีมือหรือไพ่อะไรบ้างที่มีความแข็งแกร่งที่คุณสามารถมีได้และนำมาเล่นด้วยการ Check-Raise ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่วิธีการเล่นที่เกิดขึ้นก่อนหน้า (การเล่นรอบ Pre-Flop) และ การเล่นที่ Flop จะเป็นตัวช่วยกำหนด ทั้งหมดนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าควรใช้แผนการเล่นใดต่อที่ Turn การกระทำใดๆ ที่คุณทำในการเล่นที่ Turn หากไม่สอดคล้องกับเรื่องราวก่อนหน้านั้น จะทำให้คู่ต่อสู้ของคุณสามารถจับไก่ หรือ จับ Bluff ของคุณได้

ขนาดของการวางเดิมพัน (Bet Sizing)

ในทำนองเดียวกัน คุณจำเป็นต้องกำหนดขนาดของการวางเดิมพัน ให้สอดคล้องกับแผนการเล่นปกติ เมื่อคุณมีไพ่ที่แข็งแกร่งคุณมีการวางเดิมพันสูงเท่าใด ในการลักไก่ก็เช่นเดียวกันต้องมีขนาดที่ไม่น้อยกว่า แม้ว่าขนาดของการวางเดิมพันที่มากนี้จะสร้างความกังวลให้คุณก็ตาม

คุณไม่ควรกำหนดขนาดของการวางเดิมพันแบบตายตัว หรือ คงที่ตลอด ควรใช้การผสมผสานหลายๆขนาดเข้าด้วยกัน โดย พิจารณาจาก รูปแบบของไพ่ที่เปิดขึ้นบนบอร์ด (Board’s texture) ยกตัวอย่างเช่น หากไพ่ที่ Turn เปิดออกมาทำให้ไพ่ของคู่ต่อสู้ที่มีลุ้นสามารถติดอะไรได้แล้วการเลือกใช้ขนาดใหญ่ๆ ในการวางเดิมพันสูงๆ ก็ไม่ค่อยสมเหตุสมผลสักเท่าไหร่ แต่ในกรณีที่ไพ่ที่ Turn เปิดออกมาเป็นไพ่ที่ไม่เกี่ยวข้องใดๆ (Brick) นั่นทำให้คุณสามารถใช้โอกาสนี้เลือกขนาดที่ใหญ่ในการวางเดิมพันได้ (Over-bet) เนื่องจากมันไม่ได้ไปสร้างความแข็งแกร่งให้กับคู่ต่อสู้นั่นเอง หรือ ความเปลี่ยนแปลงใดๆบนมือของคุณเช่นเดียวกัน

พิจารณาที่จะลดความสูญเสีย

ความผิดพลาดทั่วไปที่ผู้เล่นส่วนใหญ่มักจะทำในการเล่นก็คือ “พยายามลักไก่ต่อไป” การที่คุณเล่นใหญ่ในรอบ Flop ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องทุ่มทุกอย่างที่มีสำหรับการเล่นในรอบนี้ ถ้าหากคุณมีความรู้สึกว่าคุณควรหยุดลักไก่ และยอมแพ้ เพื่อลดความสูญเสีย เช่นนั้นคุณก็ควรที่จะทำ เคล็ดลับเล็กๆ ที่คุณควรให้ความสำคัญก็คือการนำ Equity มาใช้พิจารณาที่จะหยุดที่จะลักไก่ต่อ หากไพ่ที่ Turn เปิดออกมาเพิ่มโอกาสชนะให้กับคุณเมื่อ Showdown (สิ้นสุดการเล่นและเปิดไพ่หาผู้ชนะ) แต่หากไม่เป็นเช่นนั้น คือไพ่ไม่ได้เพิ่มโอกาสที่จะทำให้คุณชนะเมื่อต้อง Showdown คุณก็ควรที่จะพยายามเอาชนะจากการ ลักไก่ให้ได้

ยกตัวอย่างเช่น คุณถือไพ่ K♣J♣ ในการเล่นและ เลือกลักไก่ Check-Raise ที่ Flop A♣9♠3♥ และคู่ต่อสู้ของคุณ Call ไพ่ที่ Turn เปิดออกมาเป็น 6♣ ทำให้คุณมีลุ้นที่จะติด Nuts Flush ทำให้ตรงนี้คุณมี Equity เพิ่ม และ รู้สึกดีที่จะยิงต่อด้วยการ Bet ออกไปอีกครั้ง แต่คุณอาจเลือกจะลดความดุดันลงด้วยการ Check ได้

วิธีการรับมือเมื่อคุณถูก Check-Raise ที่ Flop

เมื่อเราเรียนรู้ที่จะนำ Check-Raise ไปใช้ในแผนการเล่นแล้ว ในทางกลับกัน หากคุณเป็นฝ่ายถูก Check-Raise เสียเองจะมีวิธีการรับมืออย่างไร และ วิธีที่นำมาใช้อธิบายสถานการณ์นี้ใน การเล่นโป๊กเกอร์ออนไลน์ หรือ เวป เล่นโป๊กเกอร์ออนไลน์ นั่นก็คือ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์นั้นๆ เราลองมาทำความเข้าใจจากตัวอย่าง

ตัวอย่างในสถานการณ์ที่คุณถูก Check-Raise เมื่อคุณถือ QQ

เราจำลองสถานการณ์ในการเล่นเมื่อคุณถือ Pocket Queens (QQ) คุณเลือกที่จะ 3-Bet คู่ต่อสู้ของคุณที่ตำแหน่ง Middle Position ในการเล่นรอบ Pre-Flop คู่ต่อสู้ Call

Flop เปิดออกมาเป็น T-5-2 

เป็นบอร์ดที่ไม่น่ากลัวเลยสำหรับ QQ เมื่อคู่ต่อสู้ต้องเล่นก่อนเลือก Check ในสถานการณ์นี้คุณต้อง Bet ออกไปแน่นอนและต้องเผชิญกับการ Raise กลับมาของคู่ต่อสู้
ในสถานการณ์นี้ ดูเหมือนจะมีความเป็นไปได้ว่า ไพ่ที่สามารถมีได้ของคู่ต่อสู้นั้น ที่สามารถ Check-Raise ในสถานการณ์นี้ ได้แก่ไพ่จำพวก Set ต่างๆ (AA,KK คงเลือกที่จะ 4-Bet กลับมาในรอบ Pre-Flop) ซึ่งมีได้ไม่มากนัก ดังนั้นคำแนะนำในการเล่นนี้ก็คือ Call เพื่อที่จะดูว่าคู่ต่อสู้จะมีแผนการเล่นต่อไปอย่างไรที่ Turn หากคู่ต่อสู้ Check คุณจึงสามารถมั่นใจได้ว่าไพ่ของคุณมีความแข็งแกร่งพอที่จะ Bet ออกไปได้ แต่หากคู่ต่อสู้ของคุณ Bet คุณควรเลือกที่จะ Call เพื่อควบคุมไม่ให้ Pot ใหญ่จนเกินไป เนื่องจากการยอมแพ้บนบอร์ดนี้นั้นเป็นไปได้ยาก

Flop มีไพ่มีน่ากลัว

ในตัวอย่างข้างต้น (QQ) เราเปลี่ยน Flop ไปเป็น A-8-7 คู่ต่อสู้เลือก Check แน่นอนว่า คุณที่เป็นฝ่าย 3-bet ในรอบ Pre-Flop จะ Bet ออกไปเพื่อ Value และ ดูว่าคู่ต่อสู้จะมีแผนการเล่นตอบสนองอย่างใด หากคู่ต่อสู้เลือก Check-Raise? เราควรทำอย่างไร?
เช่นเดิม คำตอบสำหรับสถานการณ์นี้ก็คือ Call เนื่องจากคู่ต่อสู้ค่อนข้างที่จะนำไพ่ที่ในกลุ่มที่เป็น Polarize range มาใช้ Check-Raise คือไพ่ในกลุ่ม Semi-Bluff และ ไพ่ที่มีความแข็งแกร่งจริงๆ รวมอยู่ ดังนั้นคุณจึงยังไม่ควรหมอบทิ้งไพ่ของคุณไปเสียตอนนี้

สรุปบทความ

มีเหตุผลมากมายที่คุณควรพิจารณานำแผนการ ลักไก่ ด้วยการ Check-Raise มาใช้ และอาจรู้สึกแย่เมื่อคู่ต่อสู้ของคุณสามารถ Call ได้ ไม่ต้องกังวล เนื่องจากคุณได้เรียนรู้ภายในบทความนี้ว่า คุณสามารถพิจารณาใช้แผนการเล่นเดิม (ไพ่ที่เปิดมาเข้าทางหรือเอื้อให้คุณสามารถ Bluff ได้ต่อ) หรือ เปลี่ยนแผนการเล่น ทั้งหมดขึ้นอยู่กับไพ่ที่จะเปิดขึ้นมาเล่น ในการเล่นที่ Turn และ River อย่าลืมพิจารณา Range ของคุณ และ เลืิอกขนาด Bet size ให้เหมาะสมกับแผนการเล่นที่คุณเลือก